หญิงอินเดียรายหนึ่งเข้าแจ้งความว่าถูกชาย 5 รุมโทรม แต่กลับโดนตำรวจซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ล่วงละเมิดทางเพศซ้ำ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองชาห์จาฮันปูร์ (Shahjahanpur) รัฐอุตตรประเทศ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. โดยหญิงผู้ตกเป็นเหยื่อได้ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมสุดป่าเถื่อนของกลุ่มคนร้ายเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) และล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจอินเดียได้สั่งเปิดการสอบสวนเพื่อหาตัวคนผิดมาลงโทษแล้ว
เหยื่อวัย 35 ปีซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจจาลาลาบัด (Jalalabad) บอกกับหนังสือพิมพ์ไทม์สออฟอินเดียว่า วันเกิดเหตุเธอกำลังเดินไปทำธุระ จู่ๆ ก็มีชาย 5 คนขับรถยนต์มาจอด และรุมลากตัวเธอเข้าไปในทุ่ง ก่อนจะผลัดกันข่มขืน
หลังเกิดเหตุเธอได้ไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความ แต่กลับถูกตำรวจยศรองสารวัตรคนหนึ่งพาเข้าไปในห้องและบังคับขืนใจซ้ำ แถมยังไม่รับแจ้งความเรื่องที่เธอถูกรุมโทรมด้วย
หญิงรายนี้ตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับผู้บัญชาการตำรวจอินเดีย ซึ่งผบ.ตร.ก็ได้สั่งให้มีการสอบสวนหาความจริงในเรื่องนี้
อินเดียขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่อันตรายสำหรับผู้หญิง โดยสถิติทางการระบุว่ามีคดีข่มขืนเกิดขึ้นเฉลี่ยทุกๆ 15 นาที
เมื่อต้นเดือน ต.ค. เด็กหญิงวัยเพียง 6 ขวบในรัฐอุตตรประเทศถูกลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ ข่มขืนและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งทางครอบครัวได้นำศพของหนูน้อยมาตั้งบนถนนเพื่อประจานพฤติกรรมป่าเถื่อนนี้ จนจุดชนวนการประท้วงทั่วอินเดีย
ก่อนหน้านั้น เด็กสาววัย 19 ปีรายหนึ่งก็ถูกรุมโทรมจนเสียชีวิตเมื่อเดือน ก.ย.
ย้อนไปเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2012 คดีข่มขืนนักศึกษาสาววัย 23 ปีบนรถเมล์ที่กรุงนิวเดลีได้จุดกระแสต่อต้านความรุนแรงทางเพศครั้งใหญ่ในแดนภารตะ และนำมาสู่การแก้กฎหมายเพิ่มโทษผู้ก่อคดีข่มขืน
ข้อมูลจากสำนักงานสถิตอาชญากรรมแห่งชาติอินเดียระบุว่า ปีที่แล้วตำรวจได้รับแจ้งเหตุข่มขืนเฉลี่ยวันละเกือบ 90 กรณี แต่เชื่อกันว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านั้น เนื่องจากเหยื่อที่ถูกกระทำส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ
คนวรรณะ “จัณฑาล” ซึ่งมีอยู่ราว 200 ล้านคนในอินเดียมักจะตกเป็นเหยื่อการกีดกันและทำร้ายทางเพศ โดยนักเคลื่อนไหวระบุว่าการล่วงละเมิดหญิงจัณฑาลเกิดถี่ขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด
ที่มา: Daily Mail