จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ของฝรั่งเศส กลับมาลดลงอีกครั้งในวันอังคาร (15 ธ.ค.) หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นมา 3 วันติด ขณะที่ฝรั่งเศสหันมาบังคับใช้เคอร์ฟิวยามค่ำคืนแทนมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ
คนไข้ในห้องไอซียู ซึ่งเป็นมาตรวัดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับศักยภาพของระบบสาธารณสุขในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 25 ราย เหลือ 2,881 คน นับเป็นการลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน
ตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับเป้าหมาย 2,500 ถึง 3,000 คน ที่รัฐบาลกำหนดไว้สำหรับยุติมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม และในวันอังคาร (15 ธ.ค.) รัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมหันมาบังคับใช้เคอร์ฟิวแทน
เคอร์ฟิวครั้งนี้จะครอบคลุมเวลาตั้งแต่ 20.00 น.จนถึง 06.00 น. ยกเว้นวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งครอบครัวในฝรั่งเศสต่างพากันเฉลิมฉลองคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม มันมีข้อจำกัดห้ามรวมตัวของผู้ใหญ่เกินกว่า 6 คนต่อหนึ่งครอบครัว
สืบเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังไม่ลดลงต่ำกว่า 5,000 คน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายอย่างเป็นทางการ ทางรัฐบาลจึงเลือกผ่อนคลายข้อจำกัดอันเข้มงวดต่างๆ น้อยกว่าที่วางแผนไว้ในเบื้องต้น
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่โควิด-19 จำนวน 11,532 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากระดับ 3,063 คนของวันจันทร์ (14 ธ.ค.) แต่ทรงตัวจากวันอาทิตย์ (15 ธ.ค.) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 11,533 คน
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันของวันจันทร์ลดลงเป็นปกติ เนื่องจากวันอาทิตย์มีการตรวจเชื้อประชาชนน้อยกว่าวันอื่นๆ
จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในฝรั่งเศส ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบ 790 ราย เพิ่มขึ้นจาก 371 คนเมื่อวันจันทร์ (14 ธ.ค.) ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59,072 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเวลานี้อยู่ที่ 2,391,447 คน สูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก
(ที่มา : รอยเตอร์)