อัมโบรเซ ดลามินี นายกรัฐมนตรีเอสวาตีนี (สวาซิแลนด์) ซึ่งมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกเมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 52 ปี หลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้ ชาติเพื่อนบ้าน จากการเปิดเผยของรัฐบาลเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.)
ดลามินี เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในแอฟริกาใต้เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม หรือ 2 สัปดาห์หลังมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก และล่าสุดรัฐบาลได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการถึงแก่อสัญกรรมของเขา
“ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงบัญชาให้ผมแจ้งข่าวเศร้าของประเทศ เกี่ยวกับการจากไปก่อนเวลาอันควรของนายกรัฐมนตรีอัมโบรเซ มันด์วูโล ดลามินี” เทมบา มาซูกู รองนายกรัฐมนตรีระบุในถ้อยแถลง
มาซูกูแถลงต่อว่า “นายกรัฐมนตรีจากไปเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ระหว่างอยู่ภายใต้การดูแลทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้” เขากล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของเขา
ดลามินี ประกาศในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนว่าเขามีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก แต่บอกว่าเขารู้สบายดีและไม่แสดงอาการใดๆ
ทั้งนี้ ดลามินี เป็นเพียงนักธุรกิจซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน ครั้งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนตุลาคม 2018
อย่างไรก็ตาม ในเอสวาตีนี บทบาทของหัวหน้ารัฐบาลนั้นค่อนข้างจำกัด ด้วยกษัตริย์องค์ปัจจุบันซึ่งก้าวเข้าสู่อำนาจมาตั้งแต่ปี 1986 เป็นผู้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีทั้งคณะและควบคุมรัฐสภาทั้งหมด
เอสวาตีนี ซึ่งแต่เดิมก็คือประเทศสวาซิแลนด์ รายงานพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 6,700 ราย ในนั้นเสียชีวิต 127 คน จากประชากรทั้งหมด 1.2 ล้านคน
เครือข่ายสมานฉันท์สวาซิแลนด์ กลุ่มประชาสังคมซึ่งมีสำนักงานในแอฟริกาต้ กล่าวหารัฐบาลมอบสิทธิพิเศษด้านการรักษาแก่นายกรัฐมนตรี ด้วยการเคลื่อนย้ายเขาไปยังประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งมีระบบสาธารณสุขดีกว่าสวาซิแลนด์เป็นอย่างมาก ในขณะที่ตามข้อมูลของธนาคารโลกพบว่า ในบรรดาประชากรทั้งประเทศมีมากกว่า 39% ที่อยู่ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนในปี 2016 และ 2017
(ที่มา : เอเอฟพี)