ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โวยวายศาลสูงสุดในวันเสาร์ (12 ธ.ค.) ต่อกรณีปฏิเสธรับคดีที่เขาหวังว่าจะล้มผลการเลือกตั้งที่ โจ ไบเดน ได้รับชัยชนะ พร้อมตำหนิ วิลเลียม บาร์ รัฐมนตรียุติธรรม “น่าผิดหวัง” ขณะเดียวกัน บรรดาผู้สนับสนุนของเขารวมตัวประท้วงผลการเลือกตั้งในหลายรัฐ
เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องคว่ำผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีใน 4 รัฐสำคัญที่ ไบเดน เป็นผู้ชนะ นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการที่จะยื้อเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2
คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นก่อนหน้าการประชุมของคณะผู้เลือกตั้งสหรัฐฯในวันจันทร์ (14 ธ.ค.) เพื่อรับรองชัยชนะอย่างเป็นทางการของ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต
ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้แม้ปราชัยต่อไบเดน 232 ต่อ 306 เสียง ในคะแนนคณะผู้เลือกตั้งแบบรัฐต่อรัฐ และในตอนเช้าวันเสาร์ (12 ธ.ค.) เขาเขียนบนทวิตเตอร์อีกครั้ง ตอกย้ำคำกล่าวหาว่ามีการโกง พร้อมแสดงความผิดหวังที่โดนศาลสูงสุดปฏิเสธคำร้อง
“มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่และเสื่อมเสียของกระบวนการยุติธรรม ประชาชนชาวสหรัฐฯโดนโกง และประเทศของเราเสื่อมเสีย ไม่แม้แต่มอบโอกาสแก่เราในศาล!” ทรัมป์ระบุบนทวิตเตอร์ “ศาลสูงไม่ได้ให้ความสนใจใดๆ ต่อความถูกผิดของการทำผิดโกงผลเลือกตั้งครั้งมโหฬารที่สุดของสหรัฐอเมริกา”
คำร้องจากอัยการสูงสุดรัฐเทกซัสซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน 106 คน และอัยการสูงสุดใน 17 รัฐ ได้ขอให้ศาลสูงสุดประกาศให้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ในรัฐมิชิแกน, จอร์เจีย, เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน เป็นโมฆะ
อย่างไรก็ตาม ศาลสูงสุดตัดสินว่ารัฐเทกซัส “ไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งในรัฐอื่นๆ” คำพิพากษาที่เป็นการดับความหวังของทรัมป์ลงฉับพลัน หลังจากช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์ อ้างว่าคดีนี้คือความหวังสูงสุดของเขาในการล้มผลเลือกตั้ง ทั้งนี้ ในคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุด 9 คนที่ร่วมพิจารณานั้น มีอยู่ 3 รายที่ ทรัมป์ เป็นคนแต่งตั้ง
ในทวีตที่โพสต์แสดงความผิดหวังเป็นชุดๆ ประธานาธิบดีรายนี้ยังกล่าวตำหนิรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลของเขา หลังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า บาร์ รู้ตั้งแต่แรกแล้วในช่วงต้นปี เกี่ยวกับการสืบสวนในเรื่องการเสียภาษี ฮันเตอร์ ลูกชายของไบเดน
ทั้งนี้ ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยคณะเปลี่ยนผ่านของว่าที่ประธานาธิบดี ฮันเตอร์ ไบเดน เปิดเผยเมื่อวันพุธ (9 ธ.ค.) ว่าสำนักงานอัยการสหรัฐฯในเดลาแวร์กำลังสืบสวนเกี่ยวกับการจัดการภาษีของเขา แต่เขายืนยันว่าตนเองจัดการกับภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเหมาะสม
ทรัมป์ รีทวีต ความเห็นของนักจัดรายการวิทยุคนดัง ทอดด์ สตาร์นส์ ที่บอกว่า บาร์ ควรถูกไล่ออก พร้อมระบุในทวีตของตนเองว่า “มันน่าผิดหวังมาก”
ชะตากรรมของบาร์ ในวันท้ายๆ ในวาระดำรงตำแหน่งของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ตกอยู่ในข้อสงสัยมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเขาออกมาระบุว่า การสืบสวนของกระทรวงยุติธรรม ไม่พบสัญญาณการโกงสำคัญๆ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน สวนทางกับคำกล่าวอ้างของทรัมป์ ที่เน้นย้ำว่ามีการโกงอย่างกว้างขวาง
ประธานาธิบดี ทรัมป์ ยังคงเดินหน้าคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการโกงอย่างมโหฬารโดยปราศจากหลักฐานใดๆ แม้ความพยายามในศาลหลายสิบคดีต้องประสบความล้มเหลว ทั้งนี้ แม้เขาบอกว่าจะออกจากทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคม หากคณะผู้เลือกตั้งรับรองชัยชนะของไบเดน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงโวยวายเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้ง และหาทางทำลายความชอบธรรมการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดนอย่างไม่ลดละ
ขณะเดียวกัน ในวันเสาร์ (12 ธ.ค.) พวกกลุ่มอนุรักษนิยมทั้งหลาย ได้ออกมาชุมนุมในวอชิงตันและรัฐอื่นๆ สนับสนุนทรัมป์เดินหน้ากดดันในประเด็นนี้ต่อไป
พวกกลุ่มอนุรักษนิยมกล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐานใดๆ ว่า ว่าที่ประธานาธิบดี ไบเดน ขโมยชัยชนะในศึกเลือกตั้งไปจากทรัมป์ และชุมนุมกันในหลายรัฐ ทั้งวอชิงตัน, จอร์เจีย, เพนซิลเวเนีย, มิชิแกน, วิสตอนซิน, เนวากดา และแอริโซนา ซึ่งล้วนเป็นรัฐที่ทีมหาทางของทรัมป์ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการนับคะแนนโหวต
รายงานข่าวระบุว่า การชุมนุมในวอชิงตันนั้น ปรากฏว่า มี ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ซึ่งได้รับอภัยโทษจากประธานาธิบดีรายนี้ ได้เข้าร่วมประท้วงด้วยเช่นกัน
(ที่มา: รอยเตอร์)