เอพี - จีนประณามมาตรการคว่ำบาตรของอเมริกา และการขายอาวุธล็อตใหม่ให้ไต้หวัน ซึ่งถูกมองว่า เป็นความพยายามของทรัมป์ในการเพิ่มดีกรีกดดันปักกิ่งเพื่อขัดขวางไม่ให้ไบเดนฟื้นความสัมพันธ์กับแดนมังกรได้โดยง่าย
ในวันอังคาร (8 ธ.ค.) สำนักงานกิจการฮ่องกงของคณะรัฐมนตรีจีน ออกแถลงการณ์ประณามมาตรการคว่ำบาตรของอเมริกาต่อสมาชิกคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน 14 คน ที่อนุมัติกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกงเมื่อต้นปี
ขณะเดียวกัน หัว ชุนอิง โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีน เรียกร้องให้อเมริกายกเลิกการขายอาวุธล็อตล่าสุดให้ไต้หวัน และสำทับว่า จีนจะตอบโต้อย่างเหมาะสมและตามที่จำเป็น
หัวยังประณามการแซงก์ชันของวอชิงตัน โดยระบุว่า จีนจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดและรุนแรง และจะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของประเทศอย่างเด็ดเดี่ยว
โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีนสำทับว่า รัฐบาลและประชาชนจีนขอประณามพฤติกรรมหยิ่งยโส ไม่มีเหตุผล และไร้สติของอเมริกาอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนด้วยการห้ามเดินทางเข้าอเมริกา หรือห้ามเข้าถึงระบบการเงินของอเมริกา โดยกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่เหล่านั้นมีส่วนรับผิดชอบในการละเมิดสิทธิพลเมืองในฮ่องกง
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังอนุมัติการขายอุปกรณ์สื่อสารทางทหารขั้นสูงมูลค่า 280 ล้านดอลลาร์ให้ไต้หวัน ซึ่งที่ผ่านมา คณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ใบอนุญาตขายอาวุธให้ไต้หวัน 11 รายการ อีกทั้งกระชับความสัมพันธ์ทางทหารและการเมืองกับแดนมังกรน้อยที่ปักกิ่งอ้างว่า เป็นมณฑลขบถของตนที่จะใช้กำลังผนวกถ้าจำเป็น
ขณะเดียวกัน จีนส่งเครื่องบินทหารบินเฉียดไต้หวันถี่ขึ้น และประกาศตอบโต้ด้วยการลงโทษบริษัทอเมริกันที่เกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ไทเป
ทางด้านรัฐบาลไต้หวันยินดีกับคำประกาศของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เนื่องจากแสดงให้เห็นว่า วอชิงตันยึดมั่นกับคำสัญญาในการช่วยเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศของไต้หวัน
ประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารว่า ไต้หวันตกเป็นเหยื่อการข่มขู่ทางทหารทุกวัน มีเพียงการร่วมมือกับอเมริกาเท่านั้นที่จะช่วยให้ไต้หวันรับมือกับการคุกคามและความท้าทายที่รุมเร้าภูมิภาคนี้และทั่วโลกได้
ก่อนหน้านี้ อเมริกาประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงที่มีส่วนร่วมในการผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกงที่ถูกมองว่า ลิดรอนเสรีภาพพลเมืองบนเกาะแห่งนี้ รวมถึงเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในมณฑลซินเจียง
ปีนี้อเมริกากดดันให้ปิดสถานกงสุลจีนในฮิวสตัน และสัปดาห์ที่แล้วยังสั่งลดระยะเวลาวีซ่าการพำนักในอเมริกาของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและครอบครัวจาก 10 ปี เหลือแค่เดือนเดียว
ซู เฮา ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยวิเทศสัมพันธ์จีน ชี้ว่า ดูเหมือนคณะบริหารทรัมป์กำลังใช้ไต้หวัน ฮ่องกง และประเด็นอื่นๆ เพื่อยกระดับการเผชิญหน้ากับจีน และต้องการให้ความสัมพันธ์สองประเทศปีนเกลียวจนยากที่ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้
เตียว ต้าหมิง ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะศึกษาการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหรินหมินในปักกิ่ง เห็นด้วยว่า ทรัมป์อาจมองว่า จำเป็นต้องใช้ไม้แข็งกดดันจีนมากขึ้นต่อไปจนกว่าตัวเองจะพ้นตำแหน่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตัน-ปักกิ่ง รวมถึงผลประโยชน์และประชาชนของทั้งสองประเทศ และทำให้นานาชาติผิดหวัง