ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 27 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดสากล (International Day of Epidemic Preparedness) เพื่อกระตุ้นให้ประชาคมโลกศึกษาบทเรียนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเตรียมความพร้อมสำหรับวิกฤตด้านสาธารณสุขที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ปรากฏขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นของจีนในปีที่แล้ว ก่อนจะแพร่กระจายไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 66 ล้านคนและเสียชีวิตราว 1.5 ล้านคนในปัจจุบัน
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โควิด-19 เป็น “โรคระบาดใหญ่” (pandemic) เมื่อเดือน มี.ค.ปีนี้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศว่าเป็นการยอมรับที่ล่าช้าเกินไป
ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น 193 ประเทศรับรองญัตติว่าด้วยการประกาศวันเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดสากลด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์วานนี้ (7 ธ.ค.) ซึ่งสะท้อนความจำเป็นที่จะต้อง “ยกระดับการเตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนองอย่างรวดเร็วและเพียงพอที่สุดต่อโรคระบาดใดๆ ก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้นอีก”
“สมัชชาใหญ่สหประชาชาติเคยประกาศวันสากลสำหรับหมากรุก, โยคะ และส้วมมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นการเหมาะสมที่โรคระบาดจะได้มีวันของมันเช่นกัน” ริชาร์ด โกวัน ผู้อำนวยการ International Crisis Group ระบุ พร้อมอธิบายว่ามาตรการเชิงสัญลักษณ์นี้เป็นการตอบสนองข้อกังวลของบรรดารัฐเล็กๆ และยากจนที่เกรงว่าพวกเขาอาจไม่ได้มีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือการฟื้นฟู
ญัตติของยูเอ็นยังเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือในระดับนานาชาติและความเป็นพหุภาคี
“โรคระบาดใหญ่เกิดขึ้นโดยที่พวกเราไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็เป็นสัญญาณเตือนให้เรายกระดับการเตรียมความพร้อมให้มากยิ่งขึ้น” ดั่ง ดินห์ กุย (Dang Dinh Quy) เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำยูเอ็นซึ่งเป็นผู้เสนอญัตติ ระบุ
“เราเชื่อว่าการมีวันเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดสากลจะเป็นหนทางที่ดีที่จะนำไปสู่เป้าหมายนี้”
ที่มา : รอยเตอร์