แคลิฟอร์เนียขยายล็อกดาวน์เกือบทั่วรัฐ สถานการณ์ระบาดเลวร้ายกว่าเมื่อต้นปี

เอพี - แคลิฟอร์เนียขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ควบคุมเกือบทั้งรัฐ หลังสถานการณ์การระบาดรุนแรงกว่าเมื่อต้นปี และศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยของแผนกไอซียูในหลายเขตลดต่ำกว่าเกณฑ์ 15% ที่กำหนดไว้สำหรับการเริ่มมาตรการใหม่ ซึ่งรวมถึงการปิดธุรกิจและห้ามการรวมกลุ่มสังสรรค์กับคนนอกครอบครัว มีผลทันทีในวันอาทิตย์ (6 ธ.ค.) และบังคับใช้อย่างน้อย 3 สัปดาห์ ซึ่งเท่ากับว่า จะครอบคลุมช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย

หลายพื้นที่ในรัฐแคลิฟอร์เนียมีแนวโน้มใกล้จะต้องบังคับใช้มาตรการจำกัดในลักษณะเดียวกันนี้ ขณะที่เทศมณฑล 5 จาก 11 แห่งในซานฟรานซิสโกเบย์ ตัดสินใจไม่รอคำสั่งของรัฐ แต่ประกาศให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านมีผลตั้งแต่วันเสาร์ (5) และบางแห่งในวันอาทิตย์ และบังคับใช้จนถึงวันที่ 4 มกราคมปีหน้า เป็นอย่างน้อย หรือนานกว่าคำสั่งของรัฐ 1 สัปดาห์

ขณะเดียวกัน ประชาชนจำนวนมากแห่ไปซื้อของกินของใช้และตัดผมเมื่อวันเสาร์ เตรียมพร้อมก่อนที่ทางการจะประกาศล็อกดาวน์

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) เกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เปิดเผยแผนการใหม่ ซึ่งถือเป็นมาตรการจำกัดที่เข้มงวดที่สุดนับจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งรัฐเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งหากเปรียบเทียบกัน สถานการณ์ปัจจุบันถือว่าเลวร้ายกว่า

ดร.อิริก แม็กโดนัลด์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของเทศมณฑลซานดิเอโก ให้สัมภาษณ์เมื่อวันเสาร์ว่า ความเสี่ยงในการติดโควิดในชุมชนขณะนี้สูงกว่าที่ผ่านมา และเรียกร้องให้ประชาชนอดทน ปฏิบัติตามกฎ และร่วมมือกันเพื่อให้ผ่านการระบาดครั้งล่าสุดที่เลวร้ายที่สุดไปได้

นับจากโควิด-19 ระบาด แคลิฟอร์เนียมีผู้ติดเชื้อสะสม 1.3 ล้านคน และทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด 25,068 คน เมื่อวันศุกร์ (4 ธ.ค.) ขณะที่จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่อวันทะลุ 9,000 คนครั้งแรก และจำนวนผู้ป่วยในไอซียูทำสถิติสูงสุดที่ 2,152 คน

คำสั่งล่าสุดจะแบ่งรัฐออกเป็น 5 เขต และใช้ศักยภาพของแผนกผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู) เป็นเกณฑ์ชี้ขาดการเริ่มมาตรการจำกัดใหม่ ซึ่งรวมถึงการห้ามกินอาหารในร้าน ปิดร้านตัดผมและทำเล็บ โรงภาพยนตร์ และธุรกิจอีกหลายอย่าง รวมถึงพิพิธภัณฑ์และสนามเด็กเล่น ห้ามสังสรรค์กับบุคคลนอกครอบครัว และต้องสวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

โรงเรียนที่เปิดสอนขณะนี้จะได้รับอนุญาตให้เปิดต่อไปตามปกติ ขณะที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้ารับลูกค้าได้ครั้งละ 20% จากศักยภาพปกติ

กระทรวงสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เตียงในแผนกไอซียูของ 11 เทศมณฑล ในเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ซึ่งรวมถึงเมืองลอสแองเจลีส และซานดิเอโก ว่างอยู่เพียง 12.5% และ 8.6% ในซานโจควินวัลเลย์ โดยทั้งสองเขตนี้มีประชากรรวมกันกว่าครึ่งของ 40 ล้านคนทั้งรัฐ

นายแพทย์ซาลวาดอร์ แซนโดวัล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองเมอร์เซ็ดในเซ็นทรัลวัลเลย์ เตือนว่า สถานการณ์ขณะนี้ถึงจุดที่ไม่สามารถปล่อยให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกต่อไป พร้อมย้ำให้ประชาชนป้องกันตัวเองและผู้อื่น

คำสั่งล็อกดาวน์ครั้งใหม่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดมาตลอดเกือบหนึ่งปีเต็ม หลังถูกสั่งปิดเป็นระยะ ซ้ำเมื่ออนุญาตให้เปิดยังต้องอยู่ภายใต้มาตรการระวังไว้ก่อนอันซับซ้อน

ขณะเดียวกัน ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ไวรัสโคโรนากลับมาระบาดรุนแรงในแคลิฟอร์เนียรอบใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคม คือ การที่คนเพิกเฉยต่อมาตรการป้องกันโควิดและการเว้นระยะห่างทางสังคม

ลิซา เฮอร์นันเดซ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเบิร์กเลย์ ทิ้งท้ายว่า ไม่ควรพบปะสังสรรค์กับคนที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการรวมกลุ่มกันไม่กี่คน หรือแม้แต่กลางแจ้งก็ตาม