สามีภรรยาคู่หนึ่งถูกจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ (29 พ.ย.) ที่ผ่านมา ฐานเพิกเฉยคำสั่งห้ามขึ้นเครื่องบินของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ โดยสารเครื่องบินจากซานฟรานซิสโกกลับฮาวาย ทั้งที่ทั้งสองทราบผลว่าตนเองมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่นในวันพฤหัสบดี (3 ธ.ค.)
หนังสือพิมพ์ SF Gate รายงานว่า ชายหญิงจากเมืองไวลูอา รัฐฮาวาย ซึ่งอายุ 46 ปี ทั้งคู่ มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ตอนที่พวกเขาและเด็กชายวัย 4 ขวบ เตรียมขึ้นเครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส มุ่งหน้าจากซานฟรานซิโก ไปยังเมืองคาไว รัฐฮาวาย เมื่อวันอาทิตย์ (29 พ.ย.)
รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ตอนที่อยู่ภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก และได้รับแจ้งจากบรรดาเจ้าหน้าที่ประจำสถานีกักกันโรคว่าอย่าขึ้นเครื่อง และให้ไปกักโรคแทน
อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับตัดสินใจขึ้นเครื่องอยู่ดี
หลังจากเครื่องบินลงจอดที่ฮาวาย ทั้งสองคนถูกรวบตัวโดยกรมตำรวจเมืองคาไว ฐานประมาทเลินเล่อจนอาจเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น โดยตำรวจระบุว่าทั้งสองคนทำผู้โดยสารร่วมเที่ยวบิน “เสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต”
นับตั้งแต่นั้น ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวของสามีภรรยาคู่นี้ อยู่ที่คนละ 1,000 ดลอลาร์ (ราว 1.5 แสนบาท) ส่วนเด็กชายวัย 4 ขวบนั้น ตำรวจเผยว่าได้ปล่อยให้ไปอยู่ภายใต้การดูแลของญาติคนหนึ่ง
“กรมตำรวจคาไว ซึ่งมุ่งมั่นทำงานเคียงข้างพันธมิตรระดับเคาน์ตีและระดับรัฐ ยังคงแข็งขันปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยเกาะของเรา” ผู้บัญชาการตำรวจคาไวกล่าว “เรายังคงร้องขอให้ผู้มาเยือนและชาวบ้าน ปฏิบัติตามกฎระเบียบฉุกเฉินของผู้ว่าการรัฐ และใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อนที่จำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19”
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์)