xs
xsm
sm
md
lg

ยอดเสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 1.5 ล้านศพ พบตายวันละหมื่น เฉลี่ย 1 คน ทุก 9 วินาที

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกพุ่งเกิน 1.5 ล้านคน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ พบตาย 1 คน ในทุกๆ 9 วินาที อย่างไรก็ตาม ความหวังใกล้ปรากฏ เมื่อชาติพัฒนาแล้วจำนวนหนึ่ง เตรียมเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในเดือนธันวาคม

ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีอยู่ 500,000 รายที่เพิ่งเสียชีวิตในช่วง 2 เดือนหลังสุด บ่งชี้ว่าสถานการณ์ความรุนแรงของโรคระบาดใหญ่ยังคงห่างไกลจากจุดจบ ขณะที่มีประชาชนติดเชื้อไปแล้วเกือบ 65 ล้านคนทั่วโลก และสหรัฐฯ ชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด เวลานี้กำลังต่อสู่กับการแพร่ระบาดระลอก 3

แค่สัปดาห์ที่แล้วสัปดาห์เดียว มีประชาชนเสียชีวิตจากโควิด-19 เฉลี่ยแล้วมากกว่า 10,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ในขณะที่หลายชาติทั่วโลกเวลานี้กำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดระลอก 2 และ 3 ซึ่งมีความรุนแรงกว่าระลอกแรกเป็นอย่างมาก ในนั้นรวมถึงต้องกำหนดข้อจำกัดต่างๆ รอบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประจำวัน ในความพยายามสกัดการแพร่ระบาด

องค์การอนามัยโลกระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในขวบปีที่ผ่านมา เวลานี้มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากวัณโรคในปี 2019 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากมาลาเรียเกือบ 4 เท่า

โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนเมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) ว่า โรคระบาดใหญ่จะเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่น่ากลัวที่สุดของประเทศต่อไปอีกอย่างน้อยหลายเดือน จนกว่าจะวัคซีนจะสามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง

สหรัฐฯยังคงเป็นหมายเลข 1 ของโลกทั้งในแง่ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต โดยพบผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 273,000 คน ทั้งนี้จำนวนผู้เสียชีวิตของอเมริกาเหนือและละตินอเมริการวมกัน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้เสียชีวิตที่รายงานทั้งหมดทั่วโลก

ละตินอเมริกาเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในโลกในแง่ผูู้เสียชีวิต โดยเมื่อไม่นานที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งผ่านหลัก 450,000 คน

เมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) อังกฤษกลายเป็นประเทศแรกที่อนุมัติใช้วัคซีนที่พัฒนาโดยไบโอเอ็นเทคแห่งเยอรมนี และไฟเซอร์อิงค์จากสหรัฐฯ ถือเป็นการกระโดดนำชาติอื่นๆ ทั่วโลก ในเส้นทางของการเริ่มต้นโครงการฉีดวีคซีนขนานใหญ่

อย่างไรก็ตาม ด้วยคาดหมายว่า ปริมาณวัคซีนจะยังคงมีอย่างจำกัดในช่วงแรกๆ นั่นหมายความว่า ทุกประเทศจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มคนต่างๆ บนพื้นฐานปัจจัยแห่งความเสี่ยงทั้งหลาย

ในส่วนของสหรัฐฯ คาดหมายว่า คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบจะอนุมัติแจกจ่ายและฉีดวัคซีนในช่วงกลางเดือนธันวาคม

ผิดกับทางทวีปแอฟริกา ซึ่งกลุ่มควบคุมโรคของสหภาพแอฟริกาเปิดเผยในวันพฤหัสบดี( 3 ธ.ค.) ว่า ทวีปแห่งนี้มีเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุม 60% ของจำนวนประชากรในช่วง 2 หรือ 3 ปีข้างหน้า โดยจากการนัของรอยเตอร์ พบว่า แอฟริกา ทวีปที่มีประชากร 1,300 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันมากว่า 2.2 ล้านคน

(ที่มา: รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น