ญี่ปุ่นจะห้ามการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันในอีก 15 ปีข้างหน้า เพื่อบรรลุเป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี 2050
หนังสือพิมพ์ไมนิจิชิมบุน รายงานวันนี้ (3 ธ.ค.) ว่า นโยบายดังกล่าวคาดว่าจะถูกประกาศภายในสัปดาห์หน้าเป็นอย่างเร็ว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่จะช่วยส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดกันมากขึ้น
เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้กำหนดเป้าหมายให้ญี่ปุ่นเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ซึ่งทำให้บรรดาบริษัทใหญ่ๆ ต้องเตรียมแผนปรับตัวทางธุรกิจเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แม้ท่าทีของรัฐบาลปลาดิบจะเรียกเสียงชื่นชมจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าญี่ปุ่นทุกวันนี้ยังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอย่างมาก อีกทั้งรัฐบาล ซูงะ ก็ยังไม่ชี้แจงรายละเอียดว่าจะเดินไปสู่เป้าหมายดังกล่าวได้อย่างไร
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ปล่อยมลพิษต่ำ (low-emission cars) ทั้งแบบไฮบริดและไฟฟ้าจาก 40% ในปี 2019 เพิ่มเป็น 50-70% ภายในปี 2030
เมื่อเดือน ก.ย. รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ได้กำหนดเป้าหมายให้ยานพาหนะโดยสารทุกคันที่จำหน่ายในรัฐแห่งนี้ต้องปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (zero-emission) ภายในปี 2035 ขณะที่อังกฤษจะห้ามจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทุกประเภทภายในปี 2030
ที่มา: เอเอฟพี