หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้ให้ข้อมูลกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันศุกร์(27พ.ย.) อ้าง คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ สั่งประหารเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 ราย ห้ามออกหาปลาในทะเลและล็อกดาวน์กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของประเทศ ส่วนหนึ่งในความพยายามอันลนลานป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงจัดการกับความเสียหายทางเศษฐกิจ อันเนื่องจากวิกฤตด้านสาธารณสุข
บรรดาสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ที่ร่วมรับฟังบรรยายสรุปจากสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เผยด้วยว่ารัฐบาลของคิม ยังได้ออกคำสั่งให้คณะผู้แทนในต่างแดน ยับยั้งพฤติกรรมใดๆที่อาจเป็นการยั่วยุสหรัฐฯ เพราะกังวลว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจใช้แนวทางใหม่รับมือกับเกาหลีเหนือ
ฮา แต เคือง หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่เข้ารับฟังการบรรยายสรุป อ้างข้อมูลของหน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้ ระบุว่า คิม แสดงออกถึงความโกรธกริ้วอย่างมาก และใช้มาตรการที่ไม่มีเหตุผลจัดการกับโรคระบาดใหญ่และผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เขาเผยว่าทางสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติบอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ว่าเกาหลีเหนือได้ประหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านควบคุมเงินตราคนหนึ่งในกรุงเปียงยางเมื่อเดือนที่แล้ว หลังโยนความรับผิดชอบให้บุคคลรายดังกล่าวฐานล้มเหลวบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังประหารเจ้าหน้าที่คนสำคัญรายหนึ่งในเดือนสิงหาคม ฐานละเมิดกฎระเบียบของรัฐบาลที่จำกัดนำเข้าสินค้าจากต่างแดน อย่างไรก็ตามไม่มีการระบุชื่อเสียงเรียงนามของทั้งสองคน
นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังห้ามทำประมงและผลิตเกลือในทะเล เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลปนเปื้อนไวรัส สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร
ฮา อ้างสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ บอกต่อว่าเมื่อเร็วๆนี้ เกาหลีเหนือกำหนดให้เปียงยางและจังหวัดชากัง ทางภาคเหนือของประเทศ อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส หลังจากเมื่อช่วงกลางเดือนได้กำหนดล็อกดาวน์ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการลอบนำสินค้าและเงินตราต่างประเทศเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้แล้ว เกาหลีเหนือ ยังได้พยายามแฮกบริษัทยาของเกาหลีใต้อย่างน้อย 1 แห่ง แต่ประสบความล้มเหลว ในความพยายามขโมยข้อมูลเพื่อไปพัฒนาวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เกาหลีเหนือยืนกรานว่าพวกเขาไม่พบเคสผู้ติดเชื้อในแผ่นดินของตนเองแม้แต่รายเดียว คำกล่าวอ้างที่ถูกโต้แย้งจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก
ทั้งนี้แม้เกาหลีเหนือบอกว่ากำลังใช้ทุกความพยายามในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรรัส แต่แพร่ระบาดครั้งใหญ่ใดๆอาจก่อผลลัพธ์เลวร้ายแก่ประเทศแห่งนี้ เนื่องจากระบบสาธารณสุขของเกาหลีเหนือยังคงเสื่อมโทรม และประสบปัญหาขานแคลนเสบียงทางการแพทย์มาช้านาน
โรคระบาดใหญ่บีบให้เกาหลีเหนือปิดชายแดนของพวกเขาที่ติดกับจีน พันธมิตรการค้าและผู้มีพระคุณที่คอยให้ความช่วยเหลือรายใหญ่ที่สุด ในเดือนมกราคม แต่ความเคลื่อนไหวปิดชายแดนดังกล่าว ประกอบกับเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายต่อหลายครั้งในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ได้ก่อความเสียหายรุนแรงแก่ต่อเศรษฐกิจเกาหลีเหนือ ซึ่งสาหัสอยู่ก่อนแล้วจากมาตรการคว่ำบาตรที่นำโดยสหรัฐฯ
(ที่มา:เอพี)