รอยเตอร์ – สหประชาชาติวันนี้(23 พ.ย)ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเอธิโอเปียรับรองความปลอดภัยประชาขนเอธิโอเปีย เกิดขึ้น 1 วันหลังนายกรัฐมนตรี อาบีย์ อาห์เหม็ด ขีดเส้นตายให้กองกำลังภูมิภาคทิเกรย์ต้องยอมวางอาวุธภายใน 72 ชั่วโมง
รอยเตอร์รายงานวันนี้(23 พ.ย)ว่า นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปีย อาบีย์ อาห์เหม็ด ประกาศวันอาทิตย์(22)ขีดเส้นตายให้กองกำลังภูมิภาคทิเกรย์ต้องยอมแพ้ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนที่กองทัพเอธิโอเปียจะเข้าโจมตีเมืองเมเคเล(Mekelle) เมืองเอกของภูมิภาค
คนจำนวนหลายร้อยและอาจถึงหลายพันคนเสียชีวิตในการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 พ.ยระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย และทำให้มีชาวเอธิโอเปียไม่ต่ำกว่า 30,000 คนหนีไปที่ซูดานประเทศเพื่อนบ้าน
แคทเธอรีน โซซี (Catherine Sozi) ผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์สหประชาชาติประจำเอธิโอเปียได้แสดงความเห็นกับรอยเตอร์ว่า เธอหวังว่าจะมีการให้คำรับรองด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์และการปกป้องพลเรือนที่ไม่ได้ติดอาวุธในเมืองเมเคเลจำนวนไม่ต่ำกว่า 525,000 คน
นอกจากนี้โซซียังร้องขอการปกป้องไปยังระบบสาธารณะของพลเรือน เป็นต้นว่า ระบบสาธารณสุข โรงเรียน ระบบประปา
ทั้งนี้ในแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ของหน่วยงานจัดการฉุกเฉินของรัฐบาลกลางเอธิโอเปีย ระบุว่า "คนของพวกเราทั้งหญิงและชายในเครื่องแบบได้แสดงความใส่ใจเป็นอย่างมากในการปกป้องพลเรือนจากอันตรายระหว่างมีการปฎิบัติการบังตับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้นในภูมิภาคทิเกรย์อยู่ในเวลานี้"
ทั้งนี้พบว่ากองกำลังกบฎภูมิภาคทิเกรย์ได้ยิงจรวดเข้าไปยังภูมิภาคอัมฮารา( Amhara) และยังข้ามพรมแดนเข้าไปยังเอริเทรียประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งในวันอาทิตย์(22) อาบีย์ทวีตข้อความว่า "เราร้องขอให้พวกท่านยอมจำนนอย่างสันติภายใน 72 ชั่วโมง เมื่อพิจารณาได้ว่าวกท่านไม่มีหนทางที่จะถอยกลับแล้ว"
ทั้งนี้รายงานล่าสุดพบว่ากองกำลังทิเกรย์ TPLFA ได้ทำลายสนามบินอาซูม( Axum) อ้างอิงจากสำนักข่าวฟานาของเอธิโอเปียรายงานในวันนี้(23) ผู้นำกองกำลังTPLFA เดเบรตชัน เกเบรไมเคิล (Debretsion Gebremichael) แสดงความเห็นกับรอยเตอร์ถึงการออกมายื่นคำขาดให้ยอมแพ้ของอาบีย์ว่า เป็นเหมือนฉากบังหน้าของรัฐบาลในการสับเปลี่ยนกำลังหลังจากแพ้การรบมาแล้ว 3 แนว