ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 205 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืนวันศุกร์ (13 พ.ย.) นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.ย. ที่ผู้ป่วยรายวันแดนโสมขาวกลับมาพุ่งเกิน 200 คน
KCDC ระบุด้วยว่า ผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่ 166 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ (locally transmitted) และส่วนที่เหลือเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 39 ราย
65% ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อในประเทศอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงโซลและจังหวัดคยองกี (Gyeonggi) ซึ่งอยู่ติดกับเมืองหลวง
รัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มใช้มาตรการปรับเงินพลเมืองที่ไม่สวมหน้ากากในที่สาธารณะเมื่อวานนี้ (13) หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันกลับมาพุ่งสูงถึง 191 ราย และมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ
ประธานาธิบดี มุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ กำชับให้ทางการและหน่วยงานท้องถิ่นรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัส และความเข้มงวดกวดขันในเรื่องของมาตรการควบคุมโรค เช่น การบังคับสวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น
“เนื่องจากเราเดินทางและพบปะสังสรรค์กันมากขึ้น การบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในระดับปัจจุบันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย” มุน แถลงผ่านเฟซบุ๊ก “แต่หากเราการ์ดตกและไม่ใส่ใจมาตรการป้องกันเหล่านี้ หน้าที่การงานและวิถีชีวิตประจำวันของเราก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง และอาจเกิดความสูญเสียหรือความทุกข์ทรมานที่ร้ายแรงตามมา”
ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากในที่สาธารณะ เช่น ไนต์คลับ, ห้างสรรพสินค้า, สวนสนุก และร้านทำผม จะมีโทษปรับสูงสุด 100,000 วอน ส่วนเจ้าของสถานที่ซึ่งปล่อยปละละเลยจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 3 ล้านวอน
ขณะเดียวกัน มีรายงานจากสำนักข่าวยอนฮัปรายวันนี้ (14) ว่า นักฟุตบอลสัญชาติเกาหลีใต้ 4 คน กับสตาฟฟ์อีก 1 คน ติดเชื้อโควิด-19 แต่ทั้งหมดยังไม่แสดงอาการป่วย
ยอดผู้ป่วยโควิดสะสมในเกาหลีใต้อยู่ที่ 28,338 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 492 ราย ตามข้อมูลสถิติของ KCDC
รัฐบาลเกาหลีใต้อยู่ระหว่างเจรจาขั้นสุดท้ายกับบริษัทผู้ผลิตยาทั่วโลก และตั้งเป้าจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เพียงพอสำหรับประชากรร้อยละ 60 ภายในปีนี้
ที่มา: รอยเตอร์