รอยเตอร์ - รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า จะออกคำสั่งขยายการบังคับใช้หน้ากากอนามัยไปยังสปา สถานที่จัดงานแต่งงาน และสถานที่อื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมใหม่ที่มีเป้าหมายไปที่วิกฤตการระบาดโรคโควิด-19 หลังมีเคสใหม่เพิ่มหลักร้อยทุกวัน
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า เกาหลีใต้ประสบปัญหามีเคสผู้ป่วยใหม่เพิ่มเกิน 100 คน เมื่อไม่กี่วันมานี้
ศูนย์การควบคุมโรคและการป้องกันเกาหลีใต้ KCDC (Korea Center for Disease Control and Prevention) รายงานข้อมูลที่มาถึงช่วงเที่ยงวันเสาร์ (31 พ.ย.) ว่า มีเคสโควิด-19 ใหม่จำนวน 124 ราย กลายเป็น 5 วันติดต่อกันที่เกาหลีใต้เห็นผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแต่ละวันในหลักร้อย เป็นผลมาจากการระบาดแบบกระจุกตัวตามร้านสปา โรงเรียน และโบสถ์
และในเวลานี้กฎการบังคับสวมหน้ากากอนามัยของรัฐบาลโซลนั้นจะให้สวมในสถานที่ใน 12 ระดับชั้นความเสี่ยงสูงเช่น คลับ คาราโอเกะ บาร์ และร้านอินเทอร์เน็ต
แต่ทว่านับตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย การบังคับสวมหน้ากากอนามัยจะถูกขยายครอบคลุมไปยัง 23 ประเภท รวมถึงห้างสรรพสินค้า สวมสนุก และร้านเสริมสวย
ส่วนค่าปรับสำหรับบุคคลที่ไม่สวมหน้ากากตามกฎจะสูงสุดถึง 100,000 วอน หรือราว 87.99 ดอลลาร์ โดยจะเริ่มต้นบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย ส่วนเจ้าของกิจการเหล่านี้อาจถูกปรับสูงสุดถึง 3 ล้านวอน
และวันอาทิตย์ (1) รัฐบาลโซลยังประกาศมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม 5 ระดับที่จะถูกนำมาแทนที่ของเดิม 3 ระดับ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจขนาดเล็ก และต่อประชาชน
ตัวอย่างเช่น ในระบบเดิมแบบ 3 ระดับ ไนต์คลับนั้นถูกสั่งให้ปิดภายใต้มาตรการระดับ 2 ขณะที่มาตรการะดับ 1.5 ของใหม่จะอนุญาตให้ไนต์คลับยังคงเปิดได้ แต่ไม่อนุญาตให้มีการเต้นรำเพื่อลดการสัมผัส
“วิกฤตโควิด-19 ที่ยาวนานเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนกว่าจะมีการพบวิธีการรักษารวมไปถึงวัคซีน” รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ พัก เนือง-ฮู (Park Neung-hoo) กล่าวในรายงานสั้น