รัฐจอร์เจียจะนำบัตรลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เป็นกระดาษมานับด้วยมือใหม่ทั้งหมด จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะกรรมการเลือกตั้งประจำรัฐในวันพุธ (11 พ.ย.) ภารกิจหนักที่จำเป็นต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน
โจ ไบเดน คว้าจำนวนคณะผู้เลือกตั้งได้เกินกว่า 270 คนที่จำเป็นสำหรับการคว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังเป็นผู้ชนะในรัฐเพนซิลเวเนีย ในวันเสาร์ (7 พ.ย.) หลังต้องใช้เวลานับคะแนนนานถึง 4 วัน ความล่าช้าที่เกิดจากประชาชนหันมาลงคะแนนทางไปรษณีย์เพิ่มขึ้นอย่างมาก สืบเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธฺุ์ใหม่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานใดๆ ว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้แปดเปื้อนไปด้วยการโกง
ผลคะแนนในจอร์เจียพบว่า ไบเดน นำหน้า ทรัมป์ อยู่เพียง 14,101 คะแนน จากคะแนนเสียงราว 5 ล้านคนทั่วรัฐ ด้วยระยะห่างที่เล็กน้อยมาก ทาง แบรด ราฟเฟนสเปอร์เกอร์ เลขาธิการฝ่ายกิจการรัฐแห่งรัฐจอร์เจีย จึงระบุระหว่างการแถลงข่าวว่า การนับคะแนนใหม่นั้นมีความจำเป็น
“ด้วยส่วนต่างคะแนนที่ใกล้กันมากขนาดนี้ จึงจำเป็นต้องมีการนับคะแนนใหม่ทั้งหมดด้วยมือในทุกเคาน์ตี” นายราฟเฟนสเปอร์เกอร์ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวในงานแถลงข่าวที่เมืองแอตแลนตา “เรื่องนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้ มันจะเป็นการยืนยัน, การนับคะแนนใหม่และตรวจสอบอย่างละเอียดในคราวเดียว”
"เราต้องการเริ่มนับคะแนนก่อนสุดสัปดาห์ เจ้าหน้าที่คงจะต้องทำงานล่วงเวลามากมาย ในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้านี้"
ก่อนหน้านี้มี 97 เคาน์ตีจากทั้งหมด 159 เคาน์ตี ที่ยืนยันผลการนับคะแนนไปแล้ว และตามกฎหมายทุกเขตต้องยืนยันผลการนับคะแนนภายในวันที่ 20 พศจิกายน อย่างไรตามหากถึงเวลานั้นคะแนนยังห่างกันไม่เกิน 0.5% ผู้สมัครก็สามารถขอให้นับคะแนนใหม่ได้อีก
การนับคะแนนใหม่ครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสาหัสสากรรจ์อย่างมาก โดยหากแม้นมีการนับคะแนนตลอด 24 ชั่วโมง พวกเจ้าหน้าที่จะต้องนับคะแนนบัตรเลือกตั้งให้ได้มากกว่า 23,000 ใบต่อชั่วโมง ในช่วง 9 วันก่อนถึงเส้นตายสำหรับยืนยันผลการนับคะแนน
ผลการศึกษาของ Fair Vote กลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด พบว่าจากที่เคยมีการนับคะแนนใหม่ 31 รัฐทั่วประเทศ ระหว่างปี 2000 ถึง 2019 มีผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมแค่ 3 ครั้ง และบ่อยครั้งที่ผู้ชนะมีคะแนนทิ้งห่างมากกว่าเก่า โดยค่าเฉลี่ยของผลคะแนนที่เปลี่ยนไปอยู่ที่แค่ 0.024% น้อยกว่าที่ทรัมป์ต้องการอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบัน ไบเดน มีคะแนนนำหน้า ทรัมป์ ในจอร์เจีย ที่ 49.5% ต่อ 49.2%
(ที่มา : รอยเตอร์)