โจ ไบเดน ชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว สื่อใหญ่สหรัฐฯเจ้าต่างๆ ประกาศฟันธงในเช้าวันเสาร์ (7 พ.ย.) ซึ่งตรงกับเวลาห้าทุ่มเศษในเมืองไทย หลังจากที่ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตผู้นี้ มีชัยในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิสำคัญที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 20 เสียง
ฝ่ายข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง เอ็นบีซี นิวส์, ซีบีเอส นิวส์, รวมทั้งโทรทัศน์ข่าว ซีเอ็นเอ็น, และสำนักข่าวเอพี ต่างประกาศขานชื่อไบเดน ภายหลังฟันธงว่าเขากำชัยชนะในรัฐตัดสินอย่างเพนซิลเวเนีย ซึ่งทำให้อดีตรองประธานาธิบดีอเมริกันผู้นี้มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งรวมแล้วเกินกว่า 270 เสียง ที่จะกลายเป็นผู้พิชิตศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ไบเดน วัย 77 ปี กลายเป็นผู้สมัครอายุมากที่สุดเท่าที่เคยได้รับเลือกตั้งเข้ามาครองทำเนียบขาว ขณะที่ ทรัมป์ วัย 74 ปี ยังไม่ได้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ และอันที่จริงได้อ้างตนเองเป็นผู้ชนะมาตั้งแต่คืนวันเลือกตั้ง 3 พ.ย.รวมทั้งคอยออกข่าวทั้งด้วยการแถลงข่าวและโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีหลักฐาน ว่า มีการโกงการเลือกตั้งกันอย่างมโหฬาร นอกจากนั้น ทีมรณรงค์หาเสียงของเขาก็ได้ยื่นฟ้องร้องศาลในหลายรัฐ ซึ่งเห็นกันว่าเป็นความพยายามใช้หนทางกฎหมายเพื่อท้าทายและยับยั้งขัดขวางชัยชนะของไบเดน ทว่า ไม่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันอะไร
ไบเดนดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีอยู่ 8 ปี ในยุคของ บารัค โอบามา ชัยชนะคราวนี้ของเขาเกิดขึ้นในการลงแข่งขันเป็นครั้งที่ 3 เพื่อชิงตำแหน่งประมุขของอเมริกา
ไบเดนแถลงให้สัญญาเป็นประธานาธิบดี“สำหรับชาวอเมริกันทั้งมวล”
หลังจากสื่อใหญ่ๆ สหรัฐฯฟันธงขานชื่อเขาเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้แล้ว ไบเดนก็ออกมาประกาศให้คำมั่นว่าจะเป็น “ประธานาธิบดีสำหรับชาวอเมริกันทั้งมวล”
“งานที่รออยู่ข้างหน้าพวกเราจะหนักหน่วง แต่ผมสัญญากับพวกคุณอย่างนี้: ผมจะเป็นประธานาธิบดีสำหรับชาวอเมริกันทั้งมวล – ไม่ว่าพวกคุณจะโหวตให้ผมหรือไม่ก็ตาม” ผู้สมัครของพรรคเดโมแครตผู้นี้โพสต์ข้อความนี้ทางทวิตเตอร์
“เมื่อการรณรงค์เลือกตั้งครั้งนี้สิ้นสุดลง มันก็ถึงเวลาที่จะปล่อยความโกรธเกรี้ยวและถ้อยคำวาจาดุเดือดรุนแรงให้อยู่เบื้องหลังของพวกเรา และเข้ามาร่วมมือกันในฐานะเป็นประเทศชาติหนึ่งเดียว” ไบเดนกล่าวเช่นนี้ในคำแถลงอีกฉบับหนึ่ง “มันถึงเวลาแล้วสำหรับอเมริกาที่จะรวมตัวสามัคคีกัน และที่จะบำบัดเยียวยา”
“ทรัมป์”ไม่ยอมแพ้ บอก“ไบเดน”รีบร้อนไปแล้ว
ทางด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงปฏิเสธไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ โดยบอกว่า ไบเดนรีบร้อนประกาศตัวเป็นผู้ชนะอย่างผิดๆ ภายหลังสื่อใหญ่ๆ สหรัฐฯต่างขานชื่อผู้สมัครของพรรคเดโมแครตผู้นี้คว้าชัยแน่นอนแล้ว
“เราทั้งหมดต่างรู้ว่าทำไม โจ ไบเดน จึงกำลังรีบร้อนเพื่อแสดงตัวอย่างผิดๆ ว่าเป็นผู้ชนะ และทำไมพวกพันธมิตรสื่อของเขาจึงกำลังพยายามหนักเหลือเกินที่จะช่วยเหลือเขา: พวกเขาไม่ต้องการให้ความจริงได้รับการเปิดเผย” ทรัมป์กล่าว
“ข้อเท็จจริงง่ายๆ ก็คือ การเลือกตั้งครั้งนี้ยังห่างไกลจากการยุติจบสิ้น”
ทรัมป์ย้ำว่ารัฐต่างๆ ยังไม่ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง และทีมรณรงค์หาเสียงของเขาเองก็ได้เริ่มการฟ้องร้องท้าทายทางกฎหมายในหลายๆ คดี
อย่างไรก็ตาม จากผลการนับคะแนนเกือบจะสมบูรณ์ซึ่งแต่ละรัฐประกาศออกมา แสดงให้เห็นว่าไบเดนนำอย่างชนิดที่ทรัมป์ไม่สามารถไล่ตามทันแล้ว ดังนั้นพวกสื่อใหญ่ทั้งหลายจึงกล้าออกมาฟันธงขานชื่อผู้ชนะผลโดยรวม เหมือนกับที่สื่อได้เคยทำมาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในยุคใหม่ทุกๆ ครั้ง
ผู้นำทั่วโลกรีบแสดงความยินดีกับไบเดน
ผู้นำของโลกจำนวนมาก เป็นต้นว่า นายกรัฐมนตรี ไมเคิล มาร์ติน ของไอร์แลนด์, นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา, นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี, ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, และกระทั่งผู้ที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับทรัมป์ ดังเช่น นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร, นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย, ประธานาธิบดีอันดรเซจ ดูดา ของโปแลนด์ ต่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการแสดงความยินดีกับชัยชนะของไบเดน ทำให้ยิ่งเป็นการลำบากสำหรับทรัมป์ในการผลักดันป่าวร้องข้ออ้างของเขาที่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีการทุจริตคดโกงซึ่งมุ่งเล่นงานตัวเขา
(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์, บีบีซี)