มีรายงานว่า คอสต์โก ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ หยุดสั่งซื้อกะทิชาวเกาะ หลังจากกลุ่มพิทักษ์สัตว์พีต้ากล่าวหาบริษัทผู้ผลิต เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด บังคับใช้แรงงานลิง
พีต้า อ้างว่าคณะสืบสวนของพวกเขาประจำภูมิภาคเอเชีย พบการทำทารุุณลิงตามสวนและโรงงานต่างๆ ของเทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด “ยามที่ไม่ได้ถูกบังคับเก็บมะพร้าวและนำออกแสดงคล้ายกับคณะละครสัตว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ลิงเหล่านี้จะถูกล่ามไว้กับยางเก่าๆ หรือกักขังอยู่ใกรงที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวของพวกมันแค่นิดเดียว” พีต้ากล่าวในข่าวแจก “เกษตรกรสวนมะพร้าวรายหนึ่งยืนยันว่า หากพวกลิงเกิดอาการกลัวและพยายามป้องกันตนเอง พวกมันถูกถอนฟันเขี้ยวออกหากพยายามกัดคนเลี้ยง”
ด้านเทพผดุงพรมะพร้าว ให้สัมภาษณ์กับยูเอสเอทูเดย์ ว่าบริษัทได้ทำการตรวจสอบติดตามตรวจสอบสวนมะพร้าวผ่านคนกลาง และได้แชร์ผลการประเมินมะพร้าวปลอดแรงงานลิง (Monkey-Free Coconut Due Diligence Assessment) ความยาว 14 หน้า ซึ่งรายงานระบุว่ามีสวนมะพร้าว 64 จากทั้งหมด 817 ที่ถูกสุ่มเลือกในการตรวจสอบ และไม่พบการใช้ลิงเก็บมะพร้าวแต่อย่างใด
“หลังจากมีข่าวเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับการใช้แรงงานลิงในอุตสาหกรรมมะพร้าวของไทย ชาวเกาะ หนึ่งในผู้นำโลกในด้านผลิตภัณฑ์กะทิ ขอรับประกันว่าเราไม่ได้ใช้แรงงานลิงตามสวนมะพร้าวของเรา” ทางบริษัทระบุในถ้อยแถลง พร้อมเน้นว่าบรรดาซัปพลายเออร์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าจะไม่ใช้แรงงานลิงในสวนของพวกเขา
“ไม่มีนักชอปปิ้งคนไหนต้องการเห็นลิงถููกล่ามโซ่และปฏิบัติราวกับเป็นเครื่องจักรเก็บมะพร้าว” อิงกริด นิวเคอร์ก ประธานพีต้ากล่าวในถ้อยแถลง “คอสต์โกทำถูกต้องที่ปฏิเสธการแสวงหาประโยชน์อย่างไม่ถูกต้องจากสัตว์”
ในหนังสือที่ส่งถึงนิวเคอร์ก ซึ่งส่งมาจจาก เคน คิมเบิล รองประธานฝ่ายอาหารของคอสต์โก ระบุว่าห้างค้าปลีกแห่งนี้ได้ทำการสืบสวน และได้เดินทางตรวจเยี่ยมโรงงานของบรรดาซัพพลายเออร์ทุกๆ แห่ง เพื่อตรวจสอบยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ใช้แรงงานลิง
“เราหยุดซื้อผลิตภัณฑ์แบรนด์ชาวเกาะทั้งจากซัปพลายเออร์และเจ้าของ” คิมเบิลกล่าวในหนังสือลงวันที่ 29 กันยายน “เราต้องแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อบรรดาซัปพลายเออร์ ว่าเราไม่สนับสนุนใช้ลิงเก็บมะพร้าว และการเก็บมะพร้าว ทั้งหมดต้องดำเนินการโดยแรงงานคน”
อย่างไรก็ตาม คิมเบิลระบุในหนังสือว่า “เราจะเดินหน้าตรวจตราการบังคับใช้นโยบายเก็บมะพร้าวนี้ต่อไป และเมื่อมันเป็นที่น่าพอใจ เราจะกลับมาสั่งซื้ออีกครั้ง”
ในหนังสือบอกว่า “ชาวเกาะได้แจ้งผู้ตรวจสอบคนกลางเข้ามาทำการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระต่อการปฏิบัติตามนโยบายเก็บมะพร้าว” พร้อมกับลงท้ายว่า คอสต์โก จะกลับมาสั่งซื้ออีกครั้งเมื่อรู้สึกพึงพอใจกับการเก็บมะพร้าวโดยใช้แรงงานมนุษย์
ในส่วนของ วอลมาร์ท ห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของเมริกา ระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า พวกเขาอยู่ระหว่างติดต่อพูดคุยกับผู้ผลิตเกี่ยวกับข้อกล่าวหาต่างๆ “วอลมาร์ทมีพันธสัญญาต่อแหล่งที่มาที่มีความรับผิดชอบ เราคาดหมายว่าบรรดาซัปพลายเออร์ของเราจะไม่อดทนต่อการทำทารุณสัตว์ไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม”
โฆษกของวอลมาร์ทบอกกับซีเอ็นเอ็นต่อว่า “เรากำลังติดต่อประสานงานกับซัปพลายเออร์รายนี้ในเรื่องความคาดหมายของพวกเรา ความรุนแรงของข้อกล่าวหา และซัปพลายเออร์จะดำเนินการแก้ไขถ้าจำเป็น”
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)