ราคาน้ำมันลดลงราว 3% ในวันจันทร์ (12 ต.ค.) คนงานภาคพลังงานนอร์เวย์ยุติผละงานประท้วงและกำลังผลิตใสหรัฐฯ เริ่มฟื้นคืนหลังผ่านพ้นเฮอริเคนเดลตา ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำบวก จากความหวังแพกเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เฮอริเคนเดลตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังผลิตพลังงานในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ หนักหน่วงที่สุดในรอบ 15 ปี ลดลงระดับความรุนแรงสู่พายุหมุนหลังเขตร้อนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
คนงานทยอยกลับสู่แท่นขุดเจาะในวันอาทิตย์ (11 ต.ค.) และโททัล บริษัทน้ำมันสัญชาติฝรั่งเศส เผยว่าได้กลับมาเดินเครื่องผลิต 225,000 บาร์เรลต่อวัน ที่โรงกลั่นอาเธอร์ในรัฐเทกซัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สัปดาห์ที่แล้ว น้ำมันดิบทั้งสองสัญญาเพิ่มขึ้นมากกว่า 9% ถือเป็นสัปดาห์ที่น้ำมันดิบเบรนต์ปรับขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันขยับลงในวันศุกร์ (9 ต.ค.) และต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์ (12 ต.ค.) หลังบริษัทพลังงานทั้งหลายของนอร์เวย์บรรลุข้อตกลงกับสภาพแรงงาน สำหรับหยุดผละงานประท้วงที่คุกคามกำลังผลิตน้ำมันและแก๊สของประเทศเกือบๆ 25%
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (12 ต.ค.) พุ่งแรง จากความคาดหวังที่มีต่อแพกเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19 และการปรับขึ้นของแอมะซอน, แอปเปิล และบริษัทเทคโนโยลีอื่นๆ กอนถึงฤดูกาลรายงานผลประกอบการรายไตรมาส
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 250.62 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,837.52 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 57.09 จุด (1.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,534.22 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 296.32 จุด (2.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,876.26 จุด
นักลงทุนมองในแง่บวก ว่าวอชิงตันจะฝ่าทางตันของการเจรจา ที่ทำให้ความพยายามคลอดแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่สะดุดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเชื่อมั่นนี้ผลักให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายน
มุมมองในแง่บวกมีขึ้นหลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันอาทิตย์ (11 ต.ค.) เรียกร้องสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบโควิด-19 แยกย่อยเป็นรายภาค หลังการเจรจาแพกเกจฉบับครอบคลุมติดหล่มในทางตัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะแอปเปิล ที่ทะยาน 6.4% ก่อนหน้ากิจกรรมหนึ่งในวันอังคาร (12 ต.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าจมีการเปิดตัวไฟโอนใหม่ล่าสุด
แอมะซอน ขยับขึ้น 4.8% ก่อนหน้าทศกาลลดแหลก Prime Day ในวันที่ 13 และ 14 ตุลาคม และไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.6% ช่วยดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีข่าวสารของเอสแอนด์พี 500 ดีดตัว 2.7%
ด้านราคาทองคำปิดบวกในวันอังคาร (12 ต.ค.) แต่ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ทำให้โลหะมีค่าชนิดนี้ขยับขึ้นแค่ในกรอบแคบๆ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,928.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์)