ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ในวันเสาร์ (10 ส.ค.) และยังดูเป็นคนเดิมโดยปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่ทำเนียบขาว โอ้อวดความสำเร็จต่างๆ นานาของตนเอง และกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามโดยปราศจากหลักฐาน
ในการปรากฏตัวครั้งนี้ ทรัมป์ไม่สวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยืนอยู่เพียงลำพัง กล่าวปราศรัยจากบริเวณระเบียงของทำเนียบขาว ณ งานกิจกรรมหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “การประท้วงอย่างสันติเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง” เรียกร้องฝูงชนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สนับสนุนชาวผิวสีและละติน ให้ช่วยออกไปลงคะแนนในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พฤศจิกายน
การปรากฏตัวของทรัมป์ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ยังคงมีคำถามว่าเขายังคงมีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ถูกมองว่าเป็นก้าวย่างแรกของการหวนคืนสู่เวทีหาเสียงในสัปดาห์หน้า ด้วยที่เขามีแผนเดินสายหาเสียงในฟลอริดา, เพนซิลเวเนีย และไอโอวา ในวันจันทร์ (12 ต.ค.), วันอังคาร (13 ต.ค.) และวันพุธ (14 ต.ค.) ตามลำดับ
ทรัมป์ ปราศรัยสั้นกว่าการหาเสียงปกติทั่วไป แต่เป็นไปอย่างหนักแน่นและปราศจากความลังเล คุยโวเกี่ยวกับประวัติของเขาในการต่อสู้กับอาชญากรรม และกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมกับตำหนิพรรคเดโมแครตในประเด็นต่างๆ นานา ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุน
ทำเนียบขาวไม่ได้เปิดเผยผลตรวจโควิด-19 ล่าสุดของทรัมป์ และปฏิเสธบอกว่าผลตรวจครั้งสุดท้ายของเขาที่ออกมาเป็นลบเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม โฆษกรายหนึ่งเปิดเผยในวันศุกร์ (9 ต.ค.) ว่า ทรัมป์ จะเข้าตรวจโควิด-19 อีกรอบ และจะไม่ออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณะหากมีข้อสรุปว่าเขายังคงสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ นพ.ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวของทรัมป์ อนุญาตให้ประธานาธิบดีกลับมาพบปะผู้คนได้แล้ว
กิจกรรมในวันเสาร์ (10 ต.ค.) ถือเป็นกิจกรรมสาธารณะแรกของทรัมป์นับตั้งแต่เขาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (2 ต.ค.) แต่เขาพักรักษาตัวอยู่เพียงแค่ 3 คืน และออกจากโรงพยาบาลในวันจันทร์ (5 ต.ค.) โดยนักสังเกตการณ์บางส่วนที่เฝ้าดูการคืนสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ ให้ความเห็นว่าในตอนนั้นทรัมป์ดูมีอาการหายใจสั้นกว่าปกติ
นับตั้งแต่นั้นทำเนียบขาวเผยแพร่วิดีโอหลายคลิปและทรัมป์โทรศัพท์เข้าไปให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์หลายรายการ แต่กิจกรรมในวันเสาร์ (10 ต.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่ประชาชนมีโอกาสได้เห็นประธานาธิบดีตัวเป็นๆ หลังจากออกจากโรงพยาบาล
ทรัมป์ได้ปราศรัยอย่างกว้างๆ แตะต้องประเด็นกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา หรือที่เรียกกันว่าโอบามาแคร์, การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และภาวะเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในผลสำรวจความคิดเห็นของโพลหลายสำนักไม่กี่วันก่อนศึกเลือกตั้งจะมาถึง พบว่าพวกผู้สิทธิออกเสียงพากันมองว่าศึกเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายน คือโอกาสหย่อนบัตรสนับสนุนหรือคัดค้านแนวทางรับมือกับโรคระบาดใหญ่ของทรัมป์ ซึ่งคร่าชีวิตชาวอเมริกันชนไปแล้วมากกว่า 210,000 ราย
ทรัมป์และรัฐบาลของเขาเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ เช่นเดียวกับกรณีไม่สวมหน้ากากและไม่ใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในทำเนียบขาว แถมช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำเนียบขาวส่งสารอย่างสับสนว่าประธานาธิบดีติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างไร
สมาชิกพรรคเดโมแครตและพวกผู้สันทัดกรณีบางส่วน วิพากษ์วิจารณ์กิจกรรมในวันเสาร์ (10 ต.ค.) ว่าเสี่ยงก่อกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ เช่นเดียวกับการใช้อาคารของรัฐหาเสียงเลือกตั้ง
ไบเดน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องนี้ ระหว่างหาเสียงที่เดลาแวร์ แสดงความหวังว่า ทรัมป์และพวกผู้สนับสนุนของประธานาธิบดี จะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไว้ก่อน “พวกเขาควรเว้นระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากาก มันเป็นความรับผิดชอบที่ต้องทำ”
ทอม แม็กคัลลัช สมาชิกรีพับลิกัน ซึ่งกำลังลงชิงเก้าอี้วุฒิสมาชิกในรัฐอิลลินอยส์ และบินมายังวอชิงตันเพื่อร่วมกิจกรรมของทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการติดไวรัส “หากประธานาธิบดีรู้สึกว่ามันปลอดภัยเพียงพอที่จะจัดปราศรัยหาเสียง ผมก็เชื่อมั่นในการตัดสินใจของเขา”
(ที่มา : รอยเตอร์)