นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ระบุการรวมตัวกันของผู้คนที่สวนกุหลาบภายในทำเนียบขาวเมื่อเดือนที่แล้ว เป็น “กิจกรรมซูเปอร์สเปรดเดอร์” สำหรับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จัดพิธีหนึ่งที่สวนกุหลาบของททำเนียบขาวเมื่อวันที่ 26 กันยายน เพื่อเป็นเกียรติแก่ เอมี โคนีย์ บาร์เรตต์ บุคคลที่เขาเสนอชื่อให้เป็นศาลสูงคนใหม่ โดยแม้ทำเนียบขาวมีระบบคัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัส แต่มีแขกแค่เพียงบางส่วนที่สวมหน้ากาก อยู่ปะปนกันและนั่งใกล้ชิดทั้งพิธีในร่มและกลางแจ้ง
ไม่นานหลังพิธีดังกล่าว ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน เช่นเดียวกับวุฒิสมาชิกและเจ้าหน้าที่ทหาร มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก
“ข้อมูลพูดแทนตัวมันเอง” เฟาซี ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุซีบีเอสนิวส์ในวันศุกร์ (9 ต.ค.) “เรามีกิจกรรมซูเปอร์สเปรดเดอร์ในทำเนียบขาว และมันเป็นสถานการณ์ที่ฝูงชนมารวมตัวกัน ไม่สวมหน้ากากป้องกัน ดังนั้นข้อมูลพูดแทนตัวมันเอง”
เฟาซี เน้นย้ำระหว่างการสัมภาษณ์ว่า คนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แต่ไม่แสดงอาการ สามารถแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆ ได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสวมหน้ากากป้องกัน
ทรัมป์ ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก แต่ในวันเสาร์นี้ (10 ต.ค.) เขามีแผนร่วมกิจกรรรมพบปะผู้คนที่ทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล แม้มีคำถามว่าเขาต้องพักฟื้นนานแค่ไหน
ประธานาธิบดีทรัมป์เผยแพร่วิดีโอหลายชุดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยบอกว่าตนเองสบายดี และแพทย์ของเขาระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (7 ต.ค.) ว่าทรัมป์ ไม่เหลืออาการป่วยใดๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น
ทรัมป์ได้รับวิธีการรักษาโควิด-19 ที่หลากหลายซึ่งอยู่ในขั้นทดลอง ในนั้นประกอบด้วยยาต้านไวรัส “เรมเดซิเวียร์” ซึ่งผลิตโดยบริษัท กิลเลียด ไซแอนเซส, เดกซาเมทาโซน ซึ่งเป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ และยาค็อกเทล แอนติบอดี ของบริษัท รีเจนเนอรอน ฟาร์มาซูติคอลส์ อิงก์
ทั้งนี้ ทรัมป์เผยว่าเขามีความตั้งใจอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินยาแอนติบอดีไวรัสโคโรนาที่พัฒนาโดย รีเจนเนอรอน ฟาร์มาซูติคอลส์ อิงก์ และ บริษัทยา เอลี ลิลลี่ แอนด์ โค แม้คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ ยังไม่ให้ไฟเขียวไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)