เคย์ลีห์ แม็กเอนานี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว เปิดเผยในวันจันทร์ (5 ต.ค.) ว่าเธอมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก และสื่อมวลชนหลายสำนักของสหรัฐฯ รายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนอื่นๆ ยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น เขียนข้อความบนทวิตเตอร์บอกว่าใกล้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
แม็กเอนานี ระบุในถ้อยแถลงไม่กี่วันหลังจากทรัมป์เผยว่าเขาติดเชื้อโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเธอจะเริ่มกักโรคตนเอง และคณะแพทย์ประจำทำเนียบขาวไม่ได้ใส่ชื่อสื่อมวลชนรายใดในบัญชีบุคคลผู้สัมผัสใกล้ชิดเธอ
สำนักข่าวเอบีซีนิส์ ซีเอ็นเอ็น และบลูมเบิร์ก รายงานว่า ชาด กิลมาร์ติน เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ก็มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้ว บลูมเบิร์กยังรายงานด้วยว่า แคโรไลน์ ลีวิตต์ ผู้ช่วยฝ่ายสื่อสารมวลชนทำเนียบขาว รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับกลางคนอื่นๆ ก็ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เช่นกัน
สมาคมผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาว มีแถลงการณ์แสดงความห่วงใยต่อโฆษกทำเนียบขาว แม็กเอนานี พร้อมระบุว่ายังไม่พบผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวที่ติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด หลังจากที่มีผู้สื่อข่าว 3 คนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบางส่วนยังรอผลตรวจอยู่
ถ้อยแถลงดังกล่าวยังแนะนำให้ผู้สื่อข่าวทุกคนสวมหน้ากากและเว้นระยะห่าง ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ระบุไว้ โดยเฉพาะขณะที่อยู่ภายในบริเวณทำเนียบขาว
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทำเนียบขาว มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ บอกว่าเขาจะออกจากโรงพยาบาลในวันจันทร์ (5 ต.ค.) และกลับสู่ทำเนียบขาว แม้ยังไม่หายป่วยอย่างสมบูรณ์ 4 สัปดาห์ก่อนถึงวันเลือกตั้ง
ทรัมป์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารรอบนอกกรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) หลังได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 “ผมจะออกจากศูนย์การแพทย์วอลเตอร์รีดในวันนี้ ตอนเวลา 18.30น.(ตามเวลาท้องถิ่น) รู้สึกดีมาก! จงอย่ากลัวโควิด อย่าปล่อยให้มันครอบงำชีวิตคุณ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ เราพัฒนายาและความรู้ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ผมรู้สึกดีกว่าเมื่อ 20 ปีก่อนเสียอีก!” ทรัมป์บอกในทวิตเตอร์
คณะแพทย์ของทรัมป์กล่าวระหว่างแแถลงสรุปบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลว่า ทรัมป์วัย 74 ปี ไม่มีไข้มานานกว่า 72 ชั่วโมง และระดับออกซิเจนของเขาเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก่อความเสียหายแก่ปอดของประธานาธิบดีหรือไม่ หรือเปิดเผยว่าผลตรวจโควิด-19 ของทรัมป์ออกมาเป็นลบเมื่อไหร่
ทีมแพทย์เผยว่า ประธานาธิบดีได้รับออกซิเจนเสริม 2 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา “เขายังไม่ผ่านพ้นอันตรายอย่างสมบูรณ์” นายแพทย์ฌอน พี.คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าว อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าประธานาธิบดีถูกรายล้อมไปด้วยการดูแลทางการพทย์ระดับโลกตลอด 24 ชั่วโมงที่ทำเนียบขาว
ความรุนแรงในอาการป่วยของทรัมป์โหมกระพือข่าวลือและการคาดเดาต่างๆ นานาในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์บางส่วน เน้นว่าการที่ทรัมป์มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรืออ้วน อยู่ในวัยสูงอายุ เขาจึงอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิตจากโควิด-19
นอกจากนี้แล้ว คณะแพทย์ยังใช้เดกซาเมทาโซน ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ในการรักษาเขา ซึ่งปกติแล้วจะใช้รักษาเฉพาะในเคสผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักเท่านั้น
บ่อยครั้งที่ ทรัมป์ ดูเบาภัยคุกคามของโรคระบาดใหญ่ ซึ่งแพร่เชื้อสู่อเมริกันชนมากกว่า 7.4 ล้านคน ในนั้นเสียชีวิตไปแล้วกว่า 209,000 คน และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาเผยแพร่วิดีโอจากโรงพยาบาลเป็นชุดๆ หวังสร้างความอุ่นใจแก่ประชาชนว่าเขากำลังฟื้นไข้จากโควิด-19
แห่งข่าวใกล้ชิดกับสถานการณ์เปิดเผยกับรอยเตอร์ในวันจันทร์ (5 ต.ค.) ว่าทรัมป์ไม่สู้เต็มใจเดินทางไปโรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกระวีกระวาดออกจากโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้ทางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากเดโมแครต จึงแสดงความหวังว่าการตัดสินใจกลับสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์จะไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง
เปโลซี แสดงความกังวลว่าทรัมป์อาจกลายเป็น long-hauler หรือกลุ่มผู้คนที่ประสบกับอาการปริศนาหลังได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 อาการส่วนมากที่ผู้คนเหล่านี้พบเจอ คือความยากลำบากในการใช้สมาธิ รู้สึกเบื่อหน่าย และอ่อนเพลีย บางคนอาจมีอาการเหล่านี้ไปหลายสัปดาห์ โดยบางส่วนอาจมีอาการนานหลายเดือน
อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ของทรัมป์บอกว่าประธานาธิบดีรายนี้ไม่ได้กดดันคณะแพทย์ใดๆ ให้รีบรักษาเขา
ทั้งนี้ แม้ว่าทรัมป์จะออกจากโรงพยาบาล แต่ดูเหมือนว่าเขาคงต้องทำการรักษาตัวต่อไป เนื่องจากยังคงอยู่ในคอร์ส 5 วันของการรักษาด้วยยาต่อต้านไวรัสเรมดิซิเวียร์ และจำเป็นต้องกักตนเองไปอีกสักพัก
(ที่มา : รอยเตอร์)