xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนเป้าหมายถูก “ไวท์ซูพรีมาซิสต์” ลักพาตัวเพื่อจุดไฟสงครามกลางเมือง ชี้ “ทรัมป์” เกี่ยวข้อง เจ้าตัวทวีตโต้เดือด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอพี/เอเจนซีส์ - เกรธเชน วิธเมอร์ (Gretchen Whitmer) ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน แถลงข่าวเมื่อวานนี้ (8) โจมตีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า เป็นตัวการยั่วยุ และให้ท้ายกลุ่มเคลื่อนไหวชาตินิยมอเมริกันผิวขาว ไวท์ซูพรีมาซิสต์ จนทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายเกือบถูกกลุ่มติดอาวุธอเมริกันผิวขาว วูล์ฟเวอรีน วอชเมน (Wolverine Watchmen) ลักพาตัวเพื่อต้องการทำให้สหรัฐฯเกิดสงครามกลางเมืองอีกครั้ง โจ ไบเดน คู่แข่งทรัมป์ ชี้ เป็นผลการทวีตเดือนเมษาฯของทรัมป์ “ปลดปล่อยรัฐมิชิแกน” ด้านผู้นำสหรัฐฯโต้เดือดผ่านทวิตเตอร์

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ว่า ในการเปิดแถลงข่าวของผู้ว่าการรัฐมิชิแกนจากพรรคเดโมแครต เกรธเชน วิธเมอร์ วัย 49 ปี (Gretchen Whitmer) แถลงข่าวประณามผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวข้องทำให้เธอต้องตกเป็นอันตรายด้วยการใช้คำพูดปลุกระดมและให้ท้ายกลุ่มไวท์ซูพรีมาซิสต์ชาตินิยมผิวขาว

ในการแถลงข่าวเธอได้ประณาม วูล์ฟเวอรีน วอชเมน (Wolverine Watchmen) ที่วางแผนลักพาตัวเธอเพื่อทำให้สหรัฐฯเข้าสู่สงครามกลางเมืองเป็นครั้งที่ 2 ว่า “เป็นกลุ่มคนโรคจิตและไร้ศีลธรรม” โดยชี้ไปว่า ทรัมป์ล้มเหลวในการประณามพวกคนเหล่านี้ระหว่างดีเบต กับ โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต

เอพีรายงานคำแถลงของวิธเมอร์ ว่า “เมื่อกลุ่มด้านความเกลียดชังได้ยินคำพูดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ไม่ใช่การตำหนิแต่เป็นการเรียกร้องเพื่อให้ประท้วง”และเธอกล่าวต่อว่า “เมื่อบรรดาผู้นำของพวกเราพูด คำพูดของพวกเขาสำคัญ มันมีน้ำหนัก เมื่อบรรดาผู้นำของเราพบกับการสนับสนุนและกลุ่มที่มีผู้ก่อการร้ายในประเทศเข้าร่วม คนเหล่านี้ได้ทำให้การกระทำของพวกนี้ถูกกฎหมาย คนเหล่านี้ถูกยั่วยุ เมื่อคนเหล่านี้ทำให้เกิดการแพร่กระจายความเกลียดชัง พวกเขาถูกยั่วยุ”

เอพีรายงานว่า ไบเดนได้ออกมาชี้ไปถึงคำทวีตของผู้นำสหรัฐฯเมื่อเมษายนถึง “การปลดปล่อยรัฐมิชิแกน” ที่ทรัมป์ได้วิจารณ์การแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ของรัฐบาลรัฐมิชิแกนของวิธเมอร์ โดยเขาตำหนิการทวีตของทรัมป์ในครั้งนั้นเป็นตัวกระตุ้นกลุ่มไวท์ซูพรีมาซิสเหล่านี้

ไบเดนซึ่งเดินทางมาหาเสียงที่เมืองฟีนิกซ์ เมืองเอกของรัฐแอริโซนา ร่วมกับ ส.ว.คามาลา แฮร์ริส และ นางซินดี แม็คเคน ภรรยาหม้ายของ ส.ว.ชื่อดังประจำรัฐ จอห์น แม็คเคน โดยกล่าวถึงทรัมป์ว่า “ทำไมเขาถึงไม่พูดว่า หยุด หยุด หยุด หยุด และพวกเราจะติดตามพวกคุณหากว่าพวกคุณยังไม่”

ทั้งนี้ ทรัมป์เคยกล่าวถึงกลุ่ม พราวด์ บอยส์ (proud boys) ซึ่งเป็นกลุ่มไวท์ซูพรีมาซิส โดยในเวลานั้นทรัมป์พูดระหว่างดีเบตให้ท้ายพราวด์ บอยว่า “stand back and stand by” ที่หมายถึง ให้ทางกลุ่มถอยฉากและเตรียมพร้อม เหมือนเป็นคำสั่งกลายๆ

ทั้งนี้ กลุ่มพราวด์ บอยส์ อ้่างอิงจากเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ระบุว่า สำนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯหลายแห่งได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อกลุ่มนี้ที่ โดยชี้ว่า พราวด์ บอยส์ ซึ่งเป็นกลุ่มไวท์ซูพรีมาซิสต์ โดยกลุ่มนี้ที่เป็นกลุ่มชายล้วนอิงการเมืองปีกขวาจัดและนีโอนาร์ซีนั้น เป็น “ตัวอันตราย” และมีรายงานว่า กลุ่มพราวด์ บอยส์ ประกาศสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ขณะที่ทรัมป์ออกมาทวีตตอบโต้วิธเมอร์ โดยกล่าวว่า วิธเมอร์ทำงานได้แย่มาก และควรที่จะสั่งเปิดรัฐมิชิแกน ซึ่งคำสั่งการให้อยู่แต่ในที่พักของวิธเมอร์นั้นถูกสั่งยกเลิกเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ทว่าคำสั่งการสวมหน้ากากและการรวมตัวในที่สาธารณะยังคงบังคับใช้

มาตรการป้องกันโคโรนนาไวรัสทำให้ชีวิตของวิธเมอร์ตกในอันตรายหลายครั้ง แต่ทว่า หลังจากที่ FBI ได้ทลายแผนการลักพาตัวเธอทำให้วิธเมอร์ยอมรับว่า เธอตกใจมากและสยดสยองที่ได้รู้ถึงแผนการนี้

ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า วิธเมอร์ต้องขอบคุณตัวเขาที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯและสำนักงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ(FBI) “ของเขา” สามารถขัดขวางแผนนี้ไว้ได้สำเร็จ


“แทนที่เธอจะกล่าวขอบคุณผม เธอกลับเรียกผม “ไวท์ซูพรีมาซิสต์” ทรัมป์ทวีตก่อนที่จะกล่าวหาโยนกลับไปยังไบเดนและพรรคเดโมแครตที่ไม่ยอมประณามพวกปล้นสะดมในการประท้วงและบรรดาม็อบที่เผาเมืองที่นักการเมืองเดโมแครตบริหาร











กำลังโหลดความคิดเห็น