แอมะซอน (Amazon) บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ยอมรับมีพนักงานของบริษัทติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้วเกือบ 20,000 คนตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.
แอมะซอนแถลงวานนี้ (1 ต.ค.) ว่า จากฐานข้อมูลพนักงาน 1.37 ล้านคน ซึ่งรวมถึงพนักงานประจำร้าน Whole Foods Market ในสหรัฐฯ พบว่าระหว่างวันที่ 1 มี.ค. - 19 ก.ย. มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 19,800 คน หรือคิดเป็นราวๆ 1.44% ของพนักงานทั้งหมด
พนักงานบางคน ตลอดจนเจ้าหน้าที่และสหภาพแรงงาน ออกมากล่าวหาแอมะซอนว่าปล่อยให้พนักงานตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยการเปิดโกดังสินค้าตลอดเวลาที่โควิด-19 แพร่ระบาดหนัก ขณะที่แอมะซอนอ้างว่าอัตราการแพร่กระจายของเชื้อในกลุ่มพนักงานอยู่ที่ 42% ซึ่งยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
การเปิดเผยข้อมูลนี้มีขึ้นในขณะที่พนักงานตามศูนย์โลจิสติกส์เริ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์แนวทางปกป้องสวัสดิภาพพนักงานของแอมะซอน รวมถึงการที่บริษัทลังเลที่จะเผยข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขาที่ติดเชื้อโควิด-19
แอมะซอนซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซีแอตเติลแถลงผ่านบล็อก https://blog.aboutamazon.com/operations/update-on-covid-19-testing โดยเรียกร้องให้ภาคธุรกิจอื่นๆ ออกมารายงานตัวเลขเปรียบเทียบ พร้อมยืนยันว่าจะเพิ่มการตรวจหาเชื้อพนักงานเป็น 50,000 คนต่อวันในสถานปฏิบัติงาน 650 แห่งภายในเดือน พ.ย.
“ตั้งแต่วิกฤตการณ์เริ่มต้นขึ้น เราก็พยายามให้ข้อมูลกับพนักงานทุกคน และแจ้งให้ทราบทุกครั้งที่พบผู้ป่วยใหม่ในอาคารซึ่งพวกเขาทำงานอยู่” แอมะซอน แถลงผ่านบล็อก
ทั้งนี้ บริษัทระบุว่าหากอัตราการแพร่กระจายของโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานแอมะซอนและ Whole Foods เทียบเท่ากับการติดเชื้อในประชากรสหรัฐฯ ทั่วไป จำนวนพนักงานที่ติดเชื้อจะต้องสูงถึง 33,000 คน
Athena ซึ่งเป็นสมาคมนักเคลื่อนไหวด้านแรงงานและผู้อพยพ เรียกร้องให้ภาครัฐเข้าไปตรวจสอบแอมะซอน และขอให้ทางบริษัทออกมาแถลงข้อมูลผู้ติดเชื้ออย่างสม่ำเสมอกว่านี้
“แอมะซอนปล่อยปละละเลยให้โควิด-19 แพร่ระบาดในกลุ่มพนักงานราวกับไฟป่า” แดเนียล ราเชนทรา ผู้อำนวยการ Athena ระบุในถ้อยแถลง
ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์