MGRออนไลน์/รอยเตอร์/เอเอฟพี - โรงแรมซีวิวรีสอร์ท เกาะช้าง ชี้แจง ต้องแจ้งความดำเนินการทางกฎหมายต่อ “เวสต์ลี บาร์นส์” นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน เนื่องจากถูกโพสต์รีวิวด้วยข้อความที่เป็นเท็จซึ่งสร้างความเสียหายหลายครั้งหลายหน แถมในตอนต้นยังไม่ยอมติดต่อเจรจา อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดในวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.) บอกว่า ทั้งสองฝ่ายต่างนัดหมายหารือไกล่เกลี่ยกันแล้ว
ข่าว เวสต์ลี บาร์นส์ ซึ่งถูกระบุว่ามีอาชีพเป็นครูในเมืองไทย ถูกตำรวจไทยจับกุม ภายหลังถูกโรงแรมไทยที่เกาะช้างแห่งนี้แจ้งความกล่าวโทษ ได้มีสื่อใหญ่ระหว่างประเทศหลายแห่งให้ความสนใจรายงานข่าว
โดยระบุว่าคดีนี้สืบเนื่องจากชาวอเมริกันผู้นี้โพสต์รีวิวโรงแรมแห่งนี้ในทางลบ บนเว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวชื่อดังอย่างเช่น “ทริปแอดไวเซอร์” นอกจากนั้นประเด็นสำคัญที่สื่ออินเตอร์เหล่านี้มุ่งโฟกัสยังอยู่ในลักษณะวิจารณ์กฎหมายหมิ่นประมาทและกฎหมายความผิดทางคอมพิวเตอร์ของไทยซึ่งถูกวิจารณ์ว่า
มีบทลงโทษรุนแรงมาก มีลักษณะลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนง่ายที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่มิชอบ
สำหรับคำชี้แจงของโรงแรมซีวิวรีสอร์ทที่ส่งมาถึงผู้จัดการออนไลน์ กล่าวว่า เหตุที่ทางโรงแรมต้องดำเนินการตามกฎหมายกับ “ลูกค้า” ผู้นี้ เนื่องจากข้อความในรีวิวของเขามีเนื้อหาที่สร้างความเสียหายและไม่เป็นความจริง เช่น การใช้ทาสยุคใหม่ การดูหมิ่นเหยียดเชื้อชาติของพนักงานของโรงแรมที่เป็นคนสัญชาติเช็ก ตลอดจนการพาดพิงถึงไวรัสโคโรนา ซึ่งอาจสร้างความสับสนได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน
ทางโรงแรมบอกว่า การกล่าวหา “ทาสยุคใหม่” ถือเป็นสิ่งที่ร้ายแรง ในความเป็นจริงแล้วโรงแรมปฎิบัติต่อพนักงานป็นอย่างดี และในสถานการณ์วิกฤตโรคโควิด-19 ยังไม่มีการปลดพนักงานประจำออก จากการกล่าวหาเช่นนี้ทางโรงแรมเชื่อว่า เป็นการทำให้ผู้อ่านดูหมิ่นเกลียดชังและทางโรงแรมเกิดความเสียหาย
คำชี้แจงบอกว่า ลูกค้าผู้นี้ยังได้สร้างข้อความรีวิวที่ทำความเสียหายให้โรงแรมไม่หยุดหย่อน ทั้งใน ทริปแอดไวเซอร์ และ กูเกิล ช่วงตั้งแต่ 29 มิถุนายน จนถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่สร้างขึ้นใหม่ทุกวันหลังจากที่ผู้ดูแลระบบได้ทำการลบไป และยังสร้างข้อความรีวิวติดต่อทุก 1-2 สัปดาห์ และมีแนวโน้มที่จะทำต่อเนื่อง
ทางโรงแรมยืนยันในคำชี้แจงว่าได้พยายามติดต่อคู่กรณีผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล และเว็บไซต์รีวิว เพื่อขอให้หยุดการกระทำแต่ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับ ดังนั้นจึงตัดสินใจแจ้งความตำรวจ
คำชี้แจงได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เป็นเหตุให้ลูกค้าผู้นี้ไม่พอใจทางโรงแรมว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน บาร์นส์และเพื่อนได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้บนเกาะช้าง1 คืน ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าชาวอเมริกันนำเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นำมาจากภายนอกเข้าไปห้องอาหารของโรงแรม แต่เมื่อได้รับแจ้งว่าต้องจ่ายค่าเปิดขวด 500 บาทซึ่งเป็นกฎของโรงแรมรวมทั้งเป็นกฏที่โรงแรมทั่วโลกใช้กัน ลูกค้าก็ไม่ยอมและแสดงความไม่พอใจ จนผู้จัดการประจำแผนกภัตตาคารซึ่งเป็นต่างชาติได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และได้ขอยกเลิกการเก็บค่าเปิดขวด เนื่องมาจากมีลูกค้าเป็นจำนวนมากกำลังรับประทานภายในห้องอาหาร
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้รับคำแถลงของโรงแรมแห่งนี้ซึ่งกล่าวว่า “เราเลือกที่จะแจ้งความเพื่อให้เป็นการป้องปราม เนื่องจากเราเข้าใจว่าเขาอาจจะเขียนรีวิวในทางลบอย่างต่อเนื่องไปอีกสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าในอนาคตข้างหน้า”
“เราเห็นด้วยว่ากฎหมายหมิ่นประมาทนี้อาจจะถูกมองได้ว่าเกินเลยไปสำหรับสถานการณ์นี้” คำแถลงของโรงแรมบอก แต่ก็ชี้ว่าในรีวิวของลูกค้าผู้นี้ได้สร้างเรื่องที่ไม่จริงต่างๆ และปฏิเสธไม่ยอมติดต่อสื่อสารกับทางโรงแรม
“เราเพียงต้องการให้แน่ใจว่ารีวิวที่ไม่จริงเหล่านี้จะหยุดยั้งลงไป และเราไม่ได้มีหนทางใดๆ ที่จะเจรจาเรื่องนี้กับลูกค้าผู้นี้ จวบจนกระทั่งหลังจากเราแจ้งความแล้ว”
ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวว่า ทั้งทางโรงแรมซีวิวรีสอร์ท และ บาร์นส์ ต่างระบุในวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.) ว่า มีการนัดหมายจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันแล้ว
ทางโรงแรมระบุในอีเมลว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8 ตุลาคม
ส่วนบาร์นส์ระบุในแมสเสจส่งถึงรอยเตอร์ว่า “ดูเหมือนทางโรงแรมพร้อมที่จะตกลงด้วยแล้ว” และเสริมต่อว่า “ผมจะพบกับพวกเขาในสัปดาห์หน้าเพื่อหวังที่จะยุติคดีนี้ลงโดยสิ้นเชิง มันจะเป็นสิ่งที่วิเศษมากที่จะทิ้งเรื่องแบบนี้ไว้ข้างหลังของเรา”