ศาลเกาหลีใต้พิพากษายืนตามคำตัดสินเดิม ห้ามชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่มีแผนจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลว่ามันอาจแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ศาลปกครองกรุงโซลปฏิเสธคำร้องของกลุ่มประชาสังคมอนุรักษ์กลุ่มหนึ่งซึ่งร้องขอให้ระงับคำสั่งของเจ้าหน้าที่ในเมืองหลวง ที่ห้ามพวกเขาจัดการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ใจกลางกรุงโซล ในวันที่ 3 ตุลาคม เนื่องในวันสถาปนาประเทศ ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีผู้เข้าร่วมราวๆ 1,000 คน
“คำสั่งแบนถูกกำหนดขึ้น เมื่อพิจารณาแล้วว่าอาจมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน และฝ่ายจัดขาดมาตรการที่สมเหตุสมผลและเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ” ศาลระบุ “มันไม่เข้าองค์ประกอบของการละเมิดสิทธิเสรีภาพการชุมนุม”
ผู้จัดการชุมนุมครั้งนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่เป็นแกนนำการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในบริเวณเดียวกันเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งคราวนั้นถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19
จำนวนผู้ติดเชื้อของเกาหลีใต้พุ่งขึ้นสู่ตัวเลข 3 หลัก หลังจากมีผู้ชุมนุมหลายพันคนร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลในช่วงสุดสัปดาห์วันฉลองอิสรภาพ 15 สิงหาคม
ในมาตรการที่ชิงกำหนดไว้ล่วงหน้า ฝ่ายบริหารกรุงโซลห้ามทุกการชุมนุมที่้มีผู้เข้าร่วม 10 คนขึ้นไป และจำกัดพื้นที่บางส่วนในแถบใจกลางกรุงโซลให้เป็นเขตห้ามชุมนุม
นอกจากชุมนุมในวันที่ 3 ตุลาคมแล้ว เมืองหลวงแห่งนี้ยังห้ามการเดินขบวนอื่นๆ อีก ในนั้นรวมถึงในรูปแบบของขบวนพาเหรดรถยนต์ ที่ทางกลุ่มประชาสังคมขวาจัดอีกกลุ่มวางแผนจัดขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19
หลังมีคำพิพากษา กลุ่มอนุรักษ์นิยมบอกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแผนไปจัดเดินขบวนแบบเดี่ยวบริเวณประตูคังฮวามุนแทน โดยเรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมไปรวมตัวกันที่นั่น และทำการชุมนุมแบบเว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบติตามกฎระเบียบต่อต้านไวรัส
(ที่มา : โคเรียนไทมส์)