จิม ไบรเดนสไตน์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) บอกกับสภาคองเกรสในวันพุธ (23 ก.ย.) ว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่อเมริกาต้องคงไว้ซึ่งการปรากฏตัวในวงโคจรของโลก หลังสถานีอวกาศนานาชาติปลดประจำการ เพื่อไม่ให้จีนเข้าถึงความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์
สถานีอวกาศนานาชาติซึ่งถูกใช้เป็นห้องปฏิบัติทางอวกาศ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, ยุโรป และแคนาดา ได้รับคาดหมายว่าจะปฏิบัติการไปจนถึงปี 2030
ไบรเดนสไตน์ บอกกับสภาคองเกรสว่า “ผมจะบอกคุณว่ามีสิ่งหนึ่งที่สร้างความกังวลกับผม และนั่นก็คือในวันที่สถานีอวกาศนานาชาติสิ้นสุดอายุขัยการใช้ประโยชน์” ไบรเดนสไตน์กล่าว “เพื่อให้สหรัฐฯ จะยังสามารถปรากฏตัวในวงโคจรระดับต่ำของโลก เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งจะมาถึง”
เพื่อสิ่งนั้น นาซาได้ร้องของบประมาณ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปีงบประมาณ 2021 เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจวงโคจรระดับต่ำของโลก ราว 2,000 กิโลเมตรหรือต่ำกว่านั้นจากพื้นผิวโลก
“เราต้องการเห็นพันธมิตรระหว่างรัฐกับเอกชน ที่นาซาสามารถตกลงกับบรรดาผู้ให้บริการสถานีอวกาศทางพาณิชย์ เพื่อที่เราสามารถประจำการอยู่ในวงโคจรระดับต่ำของโลกอย่างถาวรไม่มีสะดุด”
เขาบอกต่อว่า “ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับประเทศ ในการสร้างสถานีอวกาศนานาชาติอีกสถานี แต่ผมคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่า หากสนับสนุนอุตสาหกรรมทางพาณิชย์ โดยที่นาซาอยู่ในฐานะลูกค้า”
ไบรเดนสไตน์ เตือนสภาคองเกรว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่สหรัฐฯ ต้องคงครองอิทธิพลในอวกาศ ในขณะที่กำลังเผชิญกับแผนของจีน ที่หวังประจำการสถานีอวกาศของตนเองภายในปี 2022
เมื่อเดือนมิถุนายน สื่อมวลชนแห่งรัฐจีนแถลงว่ากำลังจับมือกับ 23 องค์กรจาก 17 ประเทศ เพื่อทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์บนสถานีอวกาศ ในนั้นมีทั้งประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา เช่น ฝรั่งเศส, เยอรมนี และญี่ปุ่น เช่นเดียวกับเคนยา และเปรู
“จีนกำลังดำเนินการสร้างอย่างรวดเร็วในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า สถานีอวกาศนานาชาติจีน และพวกเขาทำการตลาดอย่างรวดเร็ว ว่าสถานีอวกาศนี้เพื่อพันธมิตรนานชาติทุกราย” ไบรเดนสไตน์ กล่าว “มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้า หากเราละทิ้งวงโคจรโลกระดับต่ำยอมสละอาณาเขตนั้น”
(ที่มา : เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์)