ราคาน้ำมันปิดบวกในวันพุธ (23 ก.ย.) ได้แรงหนุนจากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทร่วงหนัก พบกิจกรรมทางธุรกิจที่น่าเป็นกังวล และทางตันทางสภาคองเกรสต่อมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ขณะที่ทองคำขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 39.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 41.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (23 ก.ย.) พบคลังปิโตรเลียมสำรองในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 กันยายน ลดลงทุกชนิด โดยสต๊อกน้ำมันดิบ ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าคาดหมายไว้ ส่วนคลังเบนซินสำรอง ลดลง 4 ล้านบาร์เรลมากกว่าคาด ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลั่น ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (23 ก.ย.) ปิดลบหนัก หลังพบข้อมูลที่เผยให้เห็นว่ากิจกรรมภาคธุรกิจอเมริกาซบเซา และทางตันในสภาคองเกรสเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ที่ซ้ำเติมความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ในขณะที่โรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังไม่อยู่ภายใต้การควบคุม
ดาวโจนส์ ลดลง 525.05 จุด (1.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,763.13 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 78.65 จุด (2.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,236.92 จุด แนสแดค ลดลง 330.65 จุด (3.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,632.99 จุด
ความเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ครั้งมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งทะยาน แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มาตั้งแต่เดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยเกี่ยวกับมาตรการเยียวยารอบใหม่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่โหมกระพือหนักหน่วงขึ้นอีกรอบ ประกอบกับแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบอย่างหนัก
นักวิเคราะห์ระบุว่า เวลานี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังกลับมาได้ราวๆ 80% จากระดับก่อนหน้าโรคระบาดใหญ่ และคาดหมายคงไม่กลับสู่ภาวะปกติจนกว่าจะมีวัคซีน
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (23 ก.ย.) ปิดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 39.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,868.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)