xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: ออสเตรเลียทลายแก๊งลอบขนยาเสพติดหนัก 800 กิโลฯยัดกระป๋องกะทิผลิตในไทยจำนวนมากเข้าซิดนีย์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - ผู้ต้องหาชาวซิดนีย์ตะวันตก 2 ราย เป็นหญิงวัย 29 ปี และชายวัย 20 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียจับกุมคาหลักฐานลังขนกระป๋องกะทิที่มียาเสพติดสารเมทแอมเฟตามีนเหลวอยู่ด้านในหนักรวม 800 กิโลกรัม ถูกยึดได้ในช่วงค่ำวันพุธ (9 ก.ย.)

ออสเตรเลียไทม์ส สื่อออสเตรเลีย รายงานเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนออสเตรเลีย ABF (Australian Border Force) สามารถทลายแก๊งขนยาเสพติดข้ามชาติครั้งใหญ่ได้สำเร็จ

เกิดขึ้นหลังการตรวจเครื่องบินคาร์โกเมื่อเดือนสิงหาคม ทางเจ้าหน้าที่ ABF พบว่า ในการขนส่งกะทิกระป๋องจำนวน 86 ลัง ที่ถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ มายังเมืองซิดนีย์ มีกะทิหนึ่งกระป๋องที่ตรวจพบมีการแอบสอดไส้ยาเสพติด และทำให้เกิดการสอบสวนขึ้นหลังจากนั้น นิวส์ ออสเตรเลีย ชี้

โดยทาง ABF ได้แจ้งเรื่องให้ตำรวจส่วนกลางออสเตรเลีย เพื่อทำการจับกุมผู้รับปลายทางไว้ได้ 2 คน คือ เมลิสซา ฟอมมาฮาเซย์ (Melissa Phommahaxay) วัย 29 ปี และ โซคเนเลน เมฆซาวานนาห์ (Souknelane Meksavannah) วัย 20 ปี ชาวซิดนีย์ตะวันตก อ้างอิงชื่อจาก เดลีเมล สื่ออังกฤษ ถูกตำรวจส่วนกลางออสเตรเลียที่แฝงตัวในคราบเจ้าหน้าที่ขนส่งเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ในค่ำวันพุธ (9) หลังจากที่ได้เซ็นชื่อรับสินค้าลังกะทิกระป๋องสอดไส้ยาเสพติดเหล่านี้

เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานว่า สารเสพติดข้างในที่เป็นของเหลวมีน้ำหนักรวม 800 กิโลกรัม

ทั้งนี้ พบว่า คนทั้งคู่ที่มีเชื้อชาติลาว ถูกนำตัวไปสอบปากคำที่สำนักงานใหญ่ตำรวจส่วนกลางออสเตรเลีย ตั้งอยู่ที่ถนนโกลเบิร์น (Goulburn Street) เมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ และขึ้นศาลท้องถิ่นกลางซิดนีย์ (Sydney Central Local Court) ในวันถัดมา (10) ในข้อหาแอบลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากเข้าออสเตรเลีย และปฏิเสธการให้ประกันตัว

ออสเตรเลียไทม์สรายงานว่า แถลงการณ์ที่ออกมาจากสำนักงานตำรวจส่วนกลางออสเตรเลีย ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งสองหากถูกตัดสินอาจต้องรับโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจส่วนกลางออสเตรเลีย เจฟฟรีย์ เทิร์นเนอร์ (Geoffrey Turner) ระบุว่า จะยังคงมีการสอบสวนต่อถึงแหล่งที่มายาเสพติดหลังจากการจับกุม “มีเพียงแต่แก๊งอาชญากรรมที่มีทรัพยากรจำนวนมากเท่านั้น ที่จะสามารถจ่ายเพื่อทำให้เกิดการปกปิดการลักลอบได้มากขนาดนี้” และเขายังกล่าวว่า ทางออสเตรเลียจะติดต่อกับชาติพันธมิตรเพื่อช่วยตามหาและระบุตัวองค์กรอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้ต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น