รอยเตอร์/เอเจนซีส์–สถาบันเซรุ่มวิทยาของอินเดียได้หยุดการทดสอบวัคซีนโควิด-19ของบริษัทยาอังกฤษ
แอสตราเซเนกา หลังวัคซีนเกิดปัญหากับผู้ป่วยทดสอบในเฟส 3 ของการทดลองทางคลินิกในอังกฤษ ซีอีโอเปิดเผยล่าสุด ผู้ป่วยที่ประสบปัญหาเป็นสตรีป่วยไขสันหลังอักเสบและทำให้มีปัญหาทางระบบประสาท อินเดียเสียชีวิตโควิด-19 ในวันเดียว 1,172 คน และมีเคสใหม่เพิ่ม 95,735 คน
รอยเตอร์รายงานวันนี้(10 ก.ย)ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ของอินเดียในวันพฤหัสบดี(10) เพิ่มขึ้นอีก95,735 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก1,172 คน ส่งผลทำให้อินเดียมีตัวเลขการติดเชื้อรวมล่าสุดที่4,465,863 คน และเสียชีวิตรวม75,062 คน
ล่าสุดสถาบันเซรุ่มวิทยาของอินเดียได้แถลงยุติการทดสอบวัคซีนโควิด-19ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทยาอังกฤษ แอสตราเซเนกา (AstraZeneca)และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
โดยในการแถลงการณ์สั้นได้ระบุว่า “เรากำลังเฝ้าตรวจสอบสถานการณ์และสั่งหยุดการทดสอบไว้”
ซึ่งสถาบันเซรุ่มวิทยาอินเดียทำการยุติการทดสอบหลังหัวหน้าองค์การควบคุมยาอินเดีย DCGI (Drugs Controller General of India)ตั้งคำถามไปที่ทางสถาบันว่าเหตุใดจึงยังคงไม่ยุติการทดสอบวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทนี้ในประเทศหลังมีการพบปัญหาเกิดขึ้นกับผู้ป่วยในขั้นทดลองที่อังกฤษ
ซึ่งสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหากับวัคซีนโควิด-19ของแอสตราเซกาล่าสุด ปาสคาล โซเรียต(Pascal Soriot) ซีอีโอบริษัทยาอังกฤษออกมาเปิดเผยเช้าวันพุธ(9)กับการประชุมร่วมกับบรรดานักลงทุนว่า เป็นคนไข้หญิงชาวอังกฤษที่มีปัญหาด้านระบบประสาทเนื่องมาจากป่วยด้วยโรคไขสันหลังอักเสบที่หายาก(transverse myelitis)
พร้อมยืนยันว่า ผลการวินิจฉัยคนไข้หญิงคนดังกล่าวยังไม่เป็นที่รับทราบแต่ทว่าเธอมีอาการที่ดีขึ้นและดูเหมือนว่าจะสามารถได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ในเช้าวันพุธ(9) อ้างอิงการรายงานจากสื่อ สแตตนิวส์
ทั้งนี้ในวันอังคาร(8)ก่อนหน้า ทางแอสตราเซเนกาแถลงว่า ได้ทำการยุติการทดสอบทางคลินิกในเฟสที่ 3
แล้วหลังจากมีผู้ป่วยเข้าร่วมการทดสอบเกิดล้มป่วยไม่คาดฝัน