เคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้น 22 จาก 50 รัฐทั่วสหรัฐฯ จากการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ แนวโน้มที่น่ากังวลก่อนวันหยุดยาว เนื่องในวันแรงงานช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นปกติที่ครอบครัวจะมารวมตัวพร้อมหน้าพร้อมตา และมีการจัดงานปาร์ตี้เพื่อฉลองสิ้นสุดฤดูร้อน หลังจากวันหยุดยาวก่อนหน้านี้ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทะยาน เช่นเดียวกับการชุมนุมประท้วงต่างๆ นานา
ก่อนหน้านี้แค่เพียง 3 สัปดาห์ พบเห็นผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแค่เพียง 3 รัฐ ในรัฐฮาวาย รัฐอิลลินอยส์ และ รัฐเซาต์ดาโคตา จากรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างการวิเคราะห์ โดยเปรียบเทียบกับเคสผู้ติดเชื้อในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น คือ ระหว่างวันที่ 8-22 สิงหาคม กับช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด
เกือบทั้ง 22 รัฐที่พบเห็นผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้นในเวลานี้ ล้วนอยู่ในภูมิภาคที่มีประชากรไม่มากนัก ทางตะวันตกตอนกลางและภาคใต้ของประเทศ
บนพื้นฐานของการคิดเป็น % รัฐเซาต์ดาโคตา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์หลัง ที่ 126% โดยรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 3,700 คน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโยงเคสผู้ติดเชื้อใหม่บางส่วน กับบรรดาผู้ขับขี่หลายแสนคน ที่ไหลบ่าไปยังเมืองสเตอร์จิส ทางใต้ของดาโคตา เพื่อร่วมกิจกรรมแรลลีประจำปีในเดือนสิงหาคม
จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรัฐไอโอวา ด้วยพบผู้ติดเชื้อใหม่ถึง 13,600 คน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนรัฐดาโคตา พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3,600 รายในช่วงเวลาเดียวกัน
การเพิ่มขึ้นของเคสผู้ติดเชื้อในรัฐต่างๆ เหล่านี้ สร้างรอยด่างแก่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงในบรรดารัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ ในนั้นรวมถึงแคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดา และ เทกซัส
จากการวิเคราะห์ข้อมูลระดับรัฐและเคาน์ตีของรอยเตอร์ พบว่า ในฟลอริดา พบผู้ติดเชื้อลดลง 39,000 คน ในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด เมื่อเทียบกับช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ขณะที่ 22 รัฐ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 37,000 คนในเวลาเดียวกัน
แม้เคสผู้ติดเชื้อทั่วประเทศลดลงจากระดับพีกสุดในเดือนกรกฎาคม แต่สหรัฐฯเข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาวเนื่องในวันแรงงาน ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ยแล้ว 44,000 คนต่อวัน หรือคิดเป็นเท่าตัวของช่วงก่อนถึงสุดสัปดาห์วันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายคนกล่าวโทษจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม ว่า เป็นผลการรวมตัวกันทางสังคมในช่วงวันหยุดรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังคงมีค่าเฉลี่ยเสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 1,000 คน ในแต่ละวัน ส่งผลให้เวลานี้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมขยับเข้าใกล้ 190,000 รายทุกขณะ สูงที่สุดในโลก
อีกปัจจัยที่เป็นตัวส่งเสริมเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ก็คือ การกลับมาเปิดโรงเรียนและวิทยาลัยในหลายพื้นที่ รวมถึงการรวมตัวของคนหมู่มาก แม้มีคำเตือนจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ไล่ตั้งแต่การประท้วงต่อต้านความไม่ยุติธรรมทางสีผิว ไปจนถึงการเดินขบวนสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นายแพทย์ แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เคยเตือนว่า เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ต้องควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ก่อนฤดูหนาวคืบคลานเข้ามา เนื่องจากพอถึงเวลานั้นเคสผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อาจเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับผูุ้ติดเชื้อโควิด-19 และด้วยที่ผู้คนเริ่มกลับเข้าสู่ในร่ม ความเสี่ยงแพร่เชื้อก็มีมากขึ้นไปด้วย
(ที่มา : รอยเตอร์)