จีนประกาศงดนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากบริษัท CBH Grain ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่โหมกระพือความขัดแย้งทางการค้าและการทูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
สำนักงานศุลกากรจีน (General Administration of Customs) แถลงว่า ข้าวบาร์เลย์จากบริษัท CBH Grain จะถูกระงับการนำเข้า หลังพบว่ามีแมลงศัตรูพืชปะปนมาหลายครั้ง
CBH ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และยืนยันจะประสานไปยังรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อกดดันให้จีนยกเลิกคำสั่งแบน
“เราไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวอ้างของจีน” โฆษก CBH ยืนยันกับรอยเตอร์ “CBH ขอยืนยันว่า เมล็ดธัญพืชที่เราส่งไปจีนทุกล็อตได้มาตรฐานรับรองการปลอดศัตรูพืชของรัฐบาล ดังนั้นคำสั่งระงับนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง”
แม้คำสั่งแบนข้าวบาร์เลย์ของ CBH จะไม่มีผลกระทบเพิ่มเติมมากนักหลังจากที่จีนขึ้นภาษีนำเข้าข้าวบาร์เลย์ออสเตรเลียในอัตราสูงกว่า 80% ไปเมื่อต้นปีนี้ แต่ก็นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณร้ายสำหรับผู้ส่งออกแดนจิงโจ้
“มันเป็นสัญญาณเตือนว่าบริษัทออสเตรเลียกำลังตกที่นั่งลำบาก ประชาชนที่จะซื้อสินค้าออสเตรเลียก็คงต้องชั่งใจมากขึ้น” ผู้ค้าธัญพืชในจีนซึ่งไม่ประสงค์ออกนามรายหนึ่งให้สัมภาษณ์
CBH ซึ่งเป็นผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียมีการส่งออกข้าวสาลี, ข้าวบาร์เลย์ และเมล็ดคาโนลานับล้านๆ ตันไปยังประเทศแถบเอเชียและตะวันออกกลาง
คาดว่าออสเตรเลียจะผลิตข้าวบาร์เลย์ได้ประมาณ 10.6 ล้านตันในปีนี้ โดยเป็นผลผลิตจาก CBH ราวๆ 30%
จีนเคยนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากออสเตรเลียถึง 70% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด และเมื่อตลาดจีนถูกปิดลงเช่นนี้ เกษตรกรชาวแดนจิงโจ้ก็จะต้องมองหาทางเลือกอื่นๆ ในการระบายสินค้า
ผลิตผลทางการเกษตรของออสเตรเลียกำลังตกเป็นเหยื่อข้อพิพาทระหว่างประเทศ ซึ่งเริ่มจากการที่รัฐบาลออสเตรเลียกล่าวหาจีนว่าแทรกแซงกิจการภายใน และความสัมพันธ์ยิ่งทรุดหนักเมื่อนายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน เรียกร้องให้ตั้งคณะสืบสวนอิสระเพื่อหาต้นตอของโรคระบาดโควิด-19
เมื่อเดือน พ.ค. รัฐบาลจีนได้สั่งเพิ่มภาษีนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากออสเตรเลียในอัตรา 80.5% เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้พฤติกรรมทุ่มตลาด ส่งผลให้การค้าที่มีมูลค่านับพันๆ ล้านดอลลาร์ต้องหยุดชะงักลง
ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ปักกิ่งประกาศจะตรวจสอบกรณีรัฐบาลออสซี่ทุ่มตลาดไวน์ที่ส่งมาขายในจีน และยังขยายขอบเขตไปถึงเรื่องของเงินอุดหนุนด้วย ซึ่งออสเตรเลียยืนกรานปฏิเสธทั้ง 2 กรณี
ที่มา: รอยเตอร์