เอเจนซีส์ – อิลอน มัสค์ เปิดตัวเทคโนโลยีสุดล้ำจากบริษัท นิวราลิงก์(Neuralink)ด้วยไมโครชิพควบคุมสมองที่ถูกฝังไว้ในหมูทดลองตัวแรกของโลกในวันศุกร์(28 ส.ค) พบชิพตัวแรกมีขนาดแค่เหรียญตั้งเป้าหมายหากสำเร็จจะเริ่มทดลองกับคน ตั้งเป้ารักษาผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และการบาดเจ็บของกระดู กสันหลัง ชี้ไมโครชิพในสมองทำให้มนุษย์สามารถต่อเชื่อมกับ AI สั่งการโทรศัพท์ได้
หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานวันเสาร์(29 ส.ค)ว่า อิลอน มัสค์ ล่าสุดออกมาทำให้โลกตกตะลึงอีกครั้งด้วยการเปิดตัว “เกอร์ทรูด” (Gertrude) หมูตัวแรกของโลกที่ถูกฝังไมโครชิพที่สมอง โดยก่อนการออกนำมาเปิดตัวสาธิตในวันศุกร์(29)ที่พบว่าเกอร์ทรูดได้รับการฝังไมโครชิพบริษัทนิวราลิงก์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2.3 เซนติเมตรในส่วนของสมองที่ควบคุมบริเวณจมูกและปากของหมูมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว
อ้างอิงจากบีบีซี พบว่าอุปกรณ์ตัวนี้ประกอบไปด้วย 3,000 อิเล็กโทรด (electrode)ที่สามารถมอนิเตอร์การทำงานของเซลล์ประสาทได้ 1,000 เซลประสาท(neuron)
ในการเปิดเผยมัสค์กล่าวว่า บริษัทนิวราลิงก์มีหมูทั้งหมด 3 ตัวและมี 2 ตัวที่ได้รับการฝังไมโครชิพ โดยมัสค์กล่าวว่า “หมูเหล่านั้นมีสุขภาพแข็งแรง และไม่สามารถแยกความแตกต่างกับหมูทั่วไปได้”
ซึ่งในการสาธิตต่อสาธารณะมีการให้หมูเกอทรูดวิ่งบนเครื่องวิ่งออกกำลังกาย โดยมัสค์อธิบายว่า ทางบริษัทสามารถคาดการณ์ถึงการเคลื่อนไหวขาของหมูระหว่างวิ่งบนเครื่องวิ่งได้อย่างแม่นยำจากข้อมูลที่ได้จากไมโครชิพที่ฝังไว้
อ้างอิงจาก CNN สื่อสหรัฐฯพบว่า การที่เขาเลือกหมูเพื่อทดลองนั้นเพราะมีความใกล้เคียงกับมนุษย์
“ในความเป็นจริงแล้วหมูมีความใกล้เคียงกับมนุษย์มาก หากว่าเราต้องการศึกษาคน หมูถือเป็นทางเลือกที่ดี” มัสค์กล่าวในช่วงการถามตอบ
มัสค์ยังกล่าวต่อไปถึงการฝังไมโครชิพในสมองมนุษย์ที่เขาต้องการให้เริ่มต้นการทดสอบกับผู้ป่วยในอนาคต มัสค์ได้แสดงคำกล่าวที่น่าตกตะลึงออกมาว่า “ผมอาจจะฝังไมโครชิพนิวราลิงก์ไว้แล้วในเวลานี้ และคุณอาจจะไม่มีวันได้รู้” มัสค์กล่าว และเสริมต่อว่า “บางทีผมอาจจะมี”
เจ้าของเทสลาและบริษัทสำรวจอวกาศ สเปซ X ยังกล่าวต่อว่า อ้างอิงจาก CNN อิลอน มัสค์ คาดหวังว่าในวันหนึ่งข้างหน้าเทคโนโลยีการฝังไมโครชิพในสมองมนุษย์จะช่วยให้คนทั่วไปสามารถควบคุมการทำงานโทรศัพท์ และอาจถึงขั้นการส่งกระแสจิตที่เรียกว่า telepathy โดยต้องการให้สมองเป็นเสมือนอินเตอร์เฟสควบคุมการทำงานเครื่องจักร แบบเดียวกันกับที่สตีฟ จ็อบ เคยให้นิ้วมือมนุษย์ทำงานแทนเมาส์คอมพิวเตอร์มาแล้ว
ทั้งนี้หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ของบริษัทมัสค์ได้กล่าวในวันศุกร์(28)ระหว่างการสาธิตว่า ไมโครชิพของบริษัทสามารถพัฒนาความเข้าใจโรคทางสมองด้วยการอ่านค่าคลื่นสมอง และมัสค์กล่าวว่าการออกมาสาธิตเป็นการออกมาเพื่อหาความร่วมมือใหม่ทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่การออกมาเพื่อระดมทุน
เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานว่า บริษัทนิวราลิงก์ได้รับเงินทุนทั้งหมด 158 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจากทั้งหมดได้มาจากมัสค์จำนวน 100 ล้านดอลลาร์ และบริษัทมีพนักงานทั้งหมดราว 100 คน
CNBC รายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทนิวราลิงก์ของมัสค์ตั้งมาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งผลิตภัณฑ์ไมโครชิพฝังสมองของบริษัทมีความหนาเพียงน้อยกว่าเส้นผมมนุษย์ 10 เท่า และคาดหวังว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะสามารถเป็นตัวเชื่อมระหว่างมนุษย์และ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ได้สำเร็จ
นวัตกรรมใหม่ตัวนี้ได้ถูกใช้ทดสอบในสัตว์ต่างชนิดรวม 19 ชนิดพร้อมกับหุ่นยนต์ที่มีอัตราค่าเฉลี่ยความสำเร็จ 87% อ้างอิงจากการแถลงของบริษัทปีที่แล้ว
CNN รายงานว่า นอกจากนี้ในการสาธิตวันศุกร์(28) อิลอน มัสค์ ประกาศว่า บริษัทของเขาได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA ในโครงการอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำยุค(Breakthrough Devices Program)เพื่อใช้ทางด้านการแพทย์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งโครงการนี้มีเพื่อการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการวินิจฉัยของโรคที่คุกคามแก่ชีวิต หรือโรคที่ไม่สามารถกลับมารักษาได้เหมือนเดิม อ้างอิงจากเว็บไซต์ของ FDA สหรัฐฯ
และในเวลานี้นิวราลิงก์เตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดฝังไมโครชิพในคนเป็นครั้งแรก แต่มัสค์ไม่ได้เปิดเผยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
ซึ่งในการฝังชิพเข้าไปเพื่อแทนที่กับบางส่วนเล็กๆของกะโหลกมนุษย์ ตัวอย่างเช่น มันสามารถทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายที่สูญเสียไปกลับคืนมา เป็นต้นว่า ปัญหาการควบคุมส่วนมือหรือขาได้เนื่องมาจากโรคอาการบาดเจ็บทางกระดูกสันหลัง หรือโรคพาร์กินสัน และยังสามารถพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของมนุษย์ แก้ปัญหาด้านสายตาและการได้ยิน
การสาธิตวันศุกร์(28)มัสค์ได้แจกแจงถึงสิ่งต่างๆที่ทางนิวราลิงก์กำลังศึกษา รวมไปถึง ปัญหาความทรงจำเสื่อม ตาบอด และการเป็นอัมพาต
เขายังกล่าวถึงการผ่าตัดฝังไมโครชิพในมนุษย์ว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบและเขาคาดหวังว่าการผ่าตัดจะใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงที่ทำโดยหุ่นยนต์และจะไม่มีการสูญเสียเลือด และคนไข้ที่ได้รับชิพจากบริษัทจะมีแผลเป็นเล็กๆเท่านั้นในการใส่ชิพที่มีขนาดแค่เหรียญขนาดใหญ่
