เอเจนซีส์ – พายุฝนตกหนักหน้ามรสุมได้ทำให้บางส่วนของกรุงนิวเดลีต้องจมน้ำในวันพุธ(19
ส.ค) และมีไฟฟ้าดับบางส่วนเกิดขึ้น เห็นรถสามล้อล้มคว่ำกลางกระแสน้ำท่วมบนถนน
ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจากวิกฤตน้ำท่วมล่าสุดทั้งภูมิภาคเอเชียใต้ 1,300 คน
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานวันนี้(20ส.ค)ว่า
เขตชานเมืองกรุงนิวเดลีเมือง คุร์เคาน์ (Gurugram)เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐหรยาณา
ประเทศอินเดีย และได้ชื่อว่าเป็น “เมืองมิลเลนเนียม” ตั้งอยู่ใกล้เมืองเดลี ถือเป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการค้าของรัฐหรยาณา ห่างจากกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ ไปทางทิศใต้ 30 กิโลเมตร
แต่ในวันพุธ(19)พบว่าเขตบ้านเรือนประชาชน ถนน และทางเดินใต้ถนนด้านล่างนั้นถูกน้ำท่วม
และมีพื้นที่ไม่มากนักมีปัญหากระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด มีการอพยพคนออกในบางจุดของเมือง
ที่กรุงนิวเดลีพบว่าประชาชนที่สัญจรไปมาต้องพบกับน้ำท่วมระดับเข่า
และรถรารวมบ้านเรือนประชาชนจมอยู่ใต้น้ำ ฝนตกหนักยิ่งเพิ่มความยากลำบากต่อการจราจรในกรุงที่มีประชากรอาศัยอยู่ถึง
20 ล้านคน
เจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑ์ที่เมืองชัยปุระ(Jaipur)รัฐราชสถาน ได้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า
คนเหล่านี้ต้องทุบตู้กระจกตั้งโชว์มัมมีอียิปต์อายุ 2,300 ปีเพื่อที่จะช่วยให้รอดพ้นจากน้ำท่วมที่บ่าไหลมาตามพื้น
“คนงานได้ทุบกระจกตู้จัดแสดงและนำมัมมี่ออกมา”
เมื่อวันศุกร์(14)ล่าสุด หลังจากระดับน้ำเริ่มขึ้นสูง ราเคช โชลัค(
Rakesh Cholak)ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์
อัลเบิร์ต ฮอล(Albert Hall Museum) กล่าว และเสริมว่า โลงศพของมัมมี่เปียกเล็กน้อยทำให้เราต้องทำให้มันแห้งด้วย
สภาพความยากลำบากเมื่อไม่กี่วันมานี้ยังเกิดขึ้นที่รัฐทางเหนือและทางตะวันออกของอินเดีย
โดยกระทรวงมหาดไทยอินเดียแถลงว่า
ทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตในหน้ามรสุมไปแล้ว 847 คน
ขณะที่รัฐเกรละที่อยู่ทางใต้มียอดเสียชีวิตจากเหตุดินถล่มครั้งเดียวเพิ่มขึ้น
61 รายวานนี้(19)เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า และยังมีผู้สูญหายอยู่อีก
9 ราย
รัฐพิหารซึ่งเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดในอินเดีย
ประชาชน 8 ล้านคนประสบปัญหาจากน้ำท่วม และอีกหลายพันต้องเข้าอาศัยในศูนย์ผู้อพยพยต้องอาศัยนอนข้างทางเนื่องมาจากปัญหามีที่พักประสบภัยไม่เพียงพอ
ส่วนในบังกลาเทศพบมีจำนวนผู้เสียชีวิต 226 คนมาจนถึงเวลานี้ขณะที่ 40% ของประเทศถูกน้ำท่วมเกิดขึ้นหลังจากที่มีฝนตกหนักและทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงและท่วมล้มตลิ่งเข้าตามหมู่บ้าน
“หากกล่าวถึงในแง่ระยะเวลาจะถือว่าครั้งนี้เป็นน้ำท่วมใหญ่อันดับ
2 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ”
อริฟุซซามาน บูยาน(Arifuzzaman
Bhuyan) หัวหน้าศูนย์การเตือนและการพยากรณ์น้ำท่วมบังกลาเทศกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่จากกระทรวงจัดการภัยพิบัติบังกลาเทศ
เปิดเผยถึงสภาพความเสียหายว่า ประชาชนไม่ต่ำกว่า 6 ล้านประสบปัญหาบ้านเรือนเสียหายจากน้ำเข้าท่วม
และคนจากหมู่บ้านกว่าหมื่นคนต้องอาศัยอยู่ในเตนท์ประสบภัย
หนึ่งในผู้ประสบภัยชาวศรีลังกา ชาฮานารา เบกัม(Shahanara Begum) กล่าวว่า
เธอต้องอาศัยอยู่บนถนนกับครอบครัวมานานกว่า 1 เดือนแล้วหลังจากบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านรูปันการ์(
Rupangar)ที่ตั้งอยู่นอกกรุงธากาถูกน้ำท่วม
“มันเหมือนกับความโชคร้ายไม่เคยหนีเรา
ไม่ว่าเราจะไปไหน น้ำท่วมตามพวกเราไป”
ผู้ประสบภัยชาวศรีลังกาวัย 50 ปีกล่าวให้สัมภาษณ์ในวันพุธ(19)
สื่อกาตาร์รายงานว่า
ที่เนปาลมีจำนวนผู้เสียชีวิต 218 คน และอีก 69
คนยังคงสูญหายจากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมที่เริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หน้ามรสุมเริ่มต้น
ในเช้าวานนี้(19)มีการค้นพบร่างผู้เสียชีวิต
6 คน และอีก 11 คนสูญหายหลังกระแสน้ำท่วมไหลกรากได้พัดพาไปในที่ห่างไกลในเขตตะวันตก
เจ้าหน้าที่เนปาลกล่าว