เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ - เครื่องบินรบของสหรัฐฯบินเข้าหาแผ่นดินใหญ่ของจีนอีกครั้ง หนึ่งในนั้นบินเข้ามาในรัศมีห่างจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไม่ถึง 100 กิโลเมตร ท่ามกลางความตึงเครียดที่ร้อนระอุขึ้นอีกระลอกระหว่างสองชาติ จากการสั่งปิดสถานกงสุลตอบโต้กันไปมา
เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ P-8A ลำหนึ่งและเครื่องบินลาดตระเวน EP-3E เข้าสู่ช่องแคบไต้หวัน บินเข้าไปใกล้ชายฝั่งมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยนเมื่อวันอาทิตย์ (26 ก.ค.) ที่ผ่านมา จากข้อมูลของสถาบันวิจัยริเริ่มตรวจสอบสถานการณ์ยุทธศาสตร์ทะเลจีนใต้ แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
สถาบันแห่งนี้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์เกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าวในตอนเช้าวันอาทิตย์ (26 ก.ค.) ก่อนต่อมาได้ระบุเพิ่มเติมว่าเครื่องบินลาดตระเวนได้บินกลับไป หลังบินเฉียดใกล้ฝูเจี้ยน และพื้นที่ทางใต้ของช่องแคบไต้หวัน
จากนั้นสถาบันแห่งนี้ได้ทวีตอีกรอบในค่ำคืนวันเดียวกัน ระบุว่า เครื่องบิน P-8A ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ปฏิบัติการใกล้เซี่ยงไฮ้ โดยมีเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำร่อง ยูเอสเอส ราฟาเอล เพรัลตา ได้แล่นตามมาในเส้นทางเดียวกัน พร้อมตั้งคำถามว่า “บางทีมันอาจจเป็นปฏิบัติการร่วม?”
อ้างอิงจากแผนภูมิของสถาบันวิจัย พบว่าเครื่องบิน P-8A ของกองทัพเรือสหรัฐฯ บินเข้ามาในรัศมี 76.5 กิโลเมตรของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นระยะที่ใกล้ที่สุดที่เครื่องบินของสหรัฐฯลำไหนๆ เคยบินเข้าประชิดแผ่นดินใหญ่ของจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนเครื่องบินอีกลูกบินเข้ามาในรัศมี 106 กิโลมตรจากชายฝั่งทางใต้ของมณฑลฝูเจี้ยน
จากข้อมูลพบว่ามันเป็นวันที่ 12 แล้วที่สหรัฐฯส่งเครื่องบินทหารบินเข้ามาใกล้ชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ของจีน
การบินเข้ามาเฉียดใกล้เซี่ยงไฮ้ของเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ P-8A มีขึ้นหลังจากปักกิ่งออกคำสั่งปิดสถานกงสุลของสหรัฐฯในเฉิงตู ตั้งแต่ 10.00 น.ของวันจันทร์ (27 ก.ค.) เป็นต้นไป เพื่อตอบโต้กรณีที่สหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลของจีนในฮิวสตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คำสั่งปิดสถานทูตของเหตุเผชิญหน้ารอบล่าสุดในสถานการณ์ความตึงเครียดต่างๆ นานาระหว่างสองฝ่าย ไล่ตั้งแต่ด้านการค้า เทคโนโลยี ไปจนถึงด้านการทูตและประเด็นทะเลจีนใต้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ทางสถาบันวิจัยริเริ่มตรวจสอบสถานการณ์ยุทธศาสตร์ทะเลจีนใต้ เผยแพร่เทปบันทึกเสียงหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นกรณีที่กองทัพเรือจีนส่งเสียงเตือนถึงเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ ให้เปลี่ยนเส้นทาง ไม่อย่างนั้นก็จำเป็นต้องเข้าสกัด โดยทางสถาบันแห่งนี้อ้างว่าเทปบันทึกเสียงดังกล่าวถูกพวกนักวิทยุมือสมัครเล่นดักฟังได้ในตอนเช้าวันเกิดเหตุ
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเครื่องบินที่เกี่ยวข้องกันเป็นเครื่องบินประเภทไหน แต่ทางสถาบันวิจัยริเริ่มตรวจสอบสถานการณ์ยุทธศาสตร์ทะเลจีนใต้ระบุว่ามันกำลังบินเข้าใกล้ชายฝั่งทางใต้ของจีน หรือทางเหนือของช่องแคบไต้หวัน อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าหลังจากนั้นมีเหตุเผชิญหน้ากันทางอากาศหรือไม่
ข้อมูลของทางสถาบันวิจัยฯ ระบุว่า ฝูงบินลาดตระเวน E-8C กองทัพสหรัฐฯ ได้บินเข้ามาในรัศมี 185 กิโลเมตร หรือน้อยกว่านั้น จากชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลกวางตั้ง 4 ครั้งในสัปดาห์ที่แล้ว
“ในขณะนี้ กองทัพสหรัฐฯกำลังส่งเครื่องบินลาดตระเวณ 3 หรือ 5 เที่ยวมายังทะเลจีนใต้ในทุกๆ วัน” สถาบันระบุ พร้อมบอกต่อว่าเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯเริ่มบินเข้าฉียดใกล้น่านฟ้าของแผ่นดินใหญ่อย่างไม่ปกติหลายต่อหลายครั้งนับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา
“ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 มันเริ่มถี่ขึ้น ระยะใกล้ขึ้นและเป็นภารกิจที่มีความหลากหลายมากขึ้น การสอดแนมทางอากาศของสหรัฐฯในทะเลจีนใต้เข้าสู่ขั้นใหม่” สถาบันวิจัยระบุ
ตามสถิติของสถาบันวิจัยริเริ่มตรวจสอบสถานการณ์ยุทธศาสตร์ทะเลจีนใต้ ระบุว่า สหรัฐฯส่งเครื่องบินบินเหนือทะเลจีนใต้กว่า 50 เที่ยว ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองทัพของทั้งสองประเทศกำลังทำการซ้อมรบ
