เอเจนซีส์ - FBI แถลงล่าสุด พบสถานกงสุลจีนประจำเมืองซานฟรานซิสโกให้ที่หลบซ่อนแก่ ถัง จวน (Tang Juan) นักวิจัยชาวจีนด้านชีววิทยาถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงวีซ่าเข้าประเทศหลังปิดบังความลับว่าเคยทำงานให้กับกองทัพประชาชนจีน ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันมีเจ้าหน้าที่จีนเผาเอกสารภายในกงสุลจีนเมืองฮูสตันหลังถูกสั่งปิด
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า อ้างอิงจากคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลพบว่า นับตั้งแต่ ถัง จวน (Tang Juan) นักวิจัยชาวจีนด้านชีววิทยาถูกดำเนินคดีฉ้อโกงวีซ่าเข้าเมืองเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเธอสามารถหลบหนีการจับกุมจากทางการสหรัฐฯ ด้วยการแอบหลบซ่อนตัวภายในสถานกงสุลจีนประจำเมืองซานฟรานซิสโก
อัยการกล่าวว่า ถังถูกสั่งดำเนินคดีเนื่องมาจากว่าเธอได้ปกปิดถึงความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนในคำยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศ
แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนได้ค้นพบภาพของเธอในชุดเครื่องแบบกองกำลังพลเรือนของกองทัพจีน PLA และยังพบว่าถังเคยทำงานในฐานะนักวิจัยให้กับมหาวิทยาลัยการแพทย์กองทัพที่ 4 FMMU (Fourth Military Medical University)
ระหว่างการถูกสอบปากคำจาก FBI เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. พบว่านักวิจัยจีนกล่าวปฏิเสธถึงการทำงานรับใช้กองทัพจีน และชี้ว่าไม่ทราบถึงความหมายของเครื่องหมายที่ติดบนชุดเครื่องแบบของเธอ และกล่าวว่าการที่ต้องสวมเครื่องแบบเป็นเพราะถือเป็นกฎของผู้ที่เข้าทำงานที่นั่นเนื่องมาจากเป็นวิทยาลัยกองทัพ
แต่หลังจากที่ได้มีการค้นบ้านพักของถังและสื่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกทางสหรัฐฯ ค้นพบหลักฐานความเกี่ยวข้องของถังกับกองทัพจีนเพิ่มขึ้น
หลังจากเสร็จสิ้นการให้ปากคำต่อ FBI สหรัฐฯ แล้วพบว่า ถังได้หลบหนีเข้าไปกบดานอยู่ภายในสถานกงสุลจีนประจำเมืองซานฟรานซิสโก และทาง FBI ประเมินว่าเธอน่าจะยังคงอยู่ที่นั่น
ในคำฟ้องพบว่ามีการระบุชื่อของนักวิทยาศาสตร์จีนอีกจำนวนไม่กี่คนที่ทางอัยการสหรัฐฯ อ้างว่าคนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการของกองทัพจีน พร้อมกับระบุชื่อ FMMU หรือสถาบันที่เกี่ยวข้องในการส่งนักวิทยาศาสตร์กองทัพจีนเข้าสหรัฐฯด้วยความพยายามที่จะแฝงตัวเข้ามาหรือการปกปิดเกี่ยวกับการทำงานที่แท้จริงของคนเหล่านี้
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานว่า การปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส วันพุธ (22) ซึ่งเป็นคำสั่งให้ปิดภายในวันศุกร์ (24) พบเจ้าหน้าที่การทูตจีนเริ่มต้นเผาเอกสารทิ้งด้านใน
ทั้งนี้ พบว่าคนภายในสถานกงสุลได้รับแจ้งมาตั้งแต่คืนวันอังคาร (21) และไม่นานหลังจากนั้นทางจีนได้เริ่มมีการเผาเอกสารที่บริเวณสนามหญ้าภายในกงสุล ซึ่งมีภาพสามารถถูกถ่ายจาก ฮ.เห็นขณะกำลังเผาได้อย่างชัดเจน และมีดับเพลิงในท้องที่ถูกส่งเข้าไปเพื่อพยายามที่จะดับไฟแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในสถานกงสุลจีนได้ เดลีเมล ชี้
CNN รายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเจ้าหน้าที่จีนเผาเอกสารอย่างเร่งด่วนเช่นกัน แต่เขาชี้ว่าเขาไม่ทราบว่าเอกสารที่ถูกเผาเหล่านี้เป็นอะไร และกล่าวยืนยันว่า เขาสามารถสั่งปิดสถานทูตจีนเพิ่มได้หากต้องการ
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่า ส่วนหนึ่งของคำสั่งให้ปิดสถานกงสุลแห่งนี้เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯ ขณะที่ ส.ว.รัฐฟลอริดา มาร์โก รูบิโอ รักษาการประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาสูงสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า กงสุลจีนในเมืองฮูสตันเป็นศูนย์สปายขนาดใหญ่ของปักกิ่ง สมควรที่ต้องถูกสั่งปิดนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งไม่เชื่อว่าการที่วอชิงตันสั่งปิดกงสุลจะมาจากปัญหาสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เจฟฟ์ มุน (Jeff Moon) ที่เคยทำหน้าที่นักการทูตสหรัฐฯในจีนและผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐฯด้านกิจการจีนภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความเห็นกับสื่อสหรัฐฯว่า หากเป็นเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา กงสุลจีนประจำซานฟรานซิสโกที่ดูแลไปจนถึงในเขตซิลิคอนแวลลีย์น่าจะตกเป็นเป้าหมายมากกว่า
มุนชี้ว่า เชื่อว่าอาจเป็นการตอบโต้จีนที่ไม่อนุญาตนักการทูตสหรัฐฯเดินทางกลับเข้าไปโดยที่ไม่ต้องทำการตรวจเช็กและเข้ารับการกักกันโรค นั่นถือเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งในเวลานี้จีนมีมาตรการเข้มงวดต่อข้อกำหนดการเดินทางเข้าเนื่องมาจากการระบาด แต่ทว่าการยอมให้ตรวจเช็กอาจทำให้นักการทูตสหรัฐฯ เสี่ยงที่ต้องถูกทางจีนแอบนำตัวอย่างดีเอ็นเอออกไปได้
ด้านกงสุลใหญ่จีนประจำฮูสตัน รัฐเทกซัส ไค เว่ย (Cai Wei) ให้สัมภาษณ์กับ CNN สื่อสหรัฐฯ ว่า เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากต่อคำสั่งการปิด “ผมไม่เคยคาดว่าจะถูกปฏิบัติเช่นนี้ และเรามาเพื่อมิตรภาพและความเข้าใจระหว่างสหรัฐฯ และจีน”