เอเจนซีส์ – ห้างยักษ์ใหญในสหรัฐฯเป็นต้นว่า วอลมาร์ท โครเกอร์ ทาร์เก็ต ร้านขายยาCVSและวอลกรีนส์ ล่าสุดออกกฎให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากภายในร้าน มีผลบังคับใช้เร็วสุดสัปดาห์หน้า มีบางห้างถึงขั้นหากลูกค้าไม่มีหน้ากากติดมือมาทางห้างเตรียมแจกให้บริเวณทางเข้ากันพนักงานในร้านถูกลูกค้ายิง เกิดขึ้นหลัง 39 รัฐทั่วอเมริกามียอดเคสไวรัสโคโรนาพุ่ง
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(16 ก.ค)ว่า ห้างวอลมาร์ทกลายเป็นห้างยักษ์ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯที่กำหนดให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า
การบังคับใช้หน้ากากอนามัยยังเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าทาร์เก็ต (Target) ร้านขายยา CVS และร้านขายยาวอลกรีนส์ (Walgreens) อ้างอิงการรายงานจากหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ในวันพฤหัสบดี(16)
ซึ่งห้างทาร์เก็ตจะเริ่มบังคับใช้หน้ากากอนามัยในวันที่ 1 ส.ค แต่ยกเว้นให้กับผู้มีปัญหาด้านสุขภาพและเด็กเล็ก ส่วนร้านขายยาชื่อดัง 2 แห่งของสหรัฐฯจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 20 ก.ค นี้
เกิดขึ้นหลังในวันพุธ(15)ห้างโครเกอร์(Kroger) และห้างโคห์ล (Kohl)แถลงให้ใช้หน้ากากอนามัยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม CNN ชี้ว่า ในตอนเริ่มแรกบรรดาห้างยักษ์ใหญ่อเมริกาต่าง "ลังเล" ที่จะใช้นโยบายหน้ากากอนมัยภายในร้านค้าของตน ซึ่งส่วนหนึ่งเกรงถึงผลกระทบจากกลุ่มลูกค้าที่ปฎิเสธการสวมใส่อย่างสิ้นเชิง และบรรดาห้างยักษ์ใหญ่ต่างชี้ว่า ทางห้างลังเลที่จะให้พนักงานของตนเป็นผู้บังคับกฎหน้ากากอนามัย โดยร้านขายยา CVS แถลงว่า ทางบริษัทไม่ต้องการให้พนักงานของร้านเป็นผู้ต้องบังคับกฎตรวจลูกค้าต้องสวมหน้ากากเข้าร้าน แต่ทาง CVS ขอให้ลูกค้าสวมหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการปกป้องตัวเองและลูกค้ารายอื่นๆด้วยการฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญที่แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยระหว่างโรคระบาด
65% ของสาขาห้างวอลมาร์ท หรือราวกว่า 5,000 สาขา รวมห้างแซมส์ คลับ (Sam’s Club) นั้นตั้งอยู่ในจุดที่รัฐบาลท้องถิ่นกำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
อลัน เอลสแตรนด์ (Alan Ellstrand) ศาสตราจารย์ประจำโรงเรียนธุรกิจวอลตัน (Walton College of Business) ของมหาวิทยาลัยอาร์คันซอ ออกมาแสดงความเห็นการเคลื่อนไหวของวอลมาร์ทในครั้งนี้ว่า การตัดสินใจของห้างวอลมาร์ทอาจส่งผลเป็นอย่างมากต่อนโยบายของบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบายหน้ากากอนามัยและแนวคิดสาธารณะเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย
ปัญหาการให้ห้างและร้านต่างๆในอเมริกาสั่งให้พนักงานของตัวเองบังคับใช้กฎหน้ากากอนามัยเป็นเพราะอเมริกันชนต่างมีอาวุธปืนในความครอบครอง
CNN ชี้ว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร้านดอลลาร์ หรือ 30 บาททุกอย่างถูกยิงเสียชีวิตที่สาขาในรัฐมิชิแกนเดือนพฤษภาคมจากสาเหตุแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายนี้ออกคำสั่งให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้าน และรวมไปถึงปัญหาการโต้เถียงอย่างดุเดือดระหว่างแคชเชียร์ของห้างอื่นๆและลูกค้าในเรื่องหน้ากากอนามัยเมื่อไม่นานมานี้และถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์
สำหรับห้างทาร์เก็ตได้แก้ปัญหาการโต้เถียงและการที่หลีกเลี่ยงไม่ให้พนักงานถูกยิงเสียชีวิตด้วยการประกาศจะแจกหน้ากากอนามัยฟรีให้กับลูกค้าที่ทางเข้าสำหรับคนที่ไม่มีหน้ากากอนามัยติดมือเข้ามา
การเคลื่อนไหวของวอลมาร์ทและห้างต่างๆในสหรัฐฯเกิดขึ้นหลังจากร้านสตาร์บัคส์ในอเมริกาสัปดาห์ที่แล้วออกคำสั่งการใช้หน้ากากอนามัยทั้ง 9,000 สาขาทั่วอเมริกา
การออกมาประกาศบังคับใช้หน้ากากอนามัยเกิดขึ้นหลังจากทั่วสหรัฐฯใน 39 รัฐมีตัวเลขการติดเชื้อเพิ่ม อ้างอิงตัวเลขจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินเปิดเผยว่า สหรัฐฯมียอดติดเชื้อรวมไม่ต่ำกว่า 3,560,364 ราย เสียชีวิต 138,201 ราย และในวันพฤหัสบดี(16) มีจำนวนเคสเพิ่ม 61,462 ราย และเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงที่ 786 คน