เอเอฟพี - ฮ่องกงกลับมาบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอีกครั้งในวันจันทร์ (13 ก.ค.) เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่จู่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน โดยห้ามประชาชนรวมกลุ่มกันในที่สาธารณะเกิน 4 คน และบังคับให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากยามใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 650 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 20,000 บาท)
ในมาตรการใหม่ ภาคธุรกิจบางอย่างก็จำเป็นต้องกลับมาปิดทำการเช่นกัน ส่วนร้านอาหารยังสามารถให้บริการลูกค้าได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดอันเข้มงวด
ศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้เป็นหนึ่งในดินแดนแรกๆ ที่ต้องเจอกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังมันอุบัติขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ทางภาคกลางของจีน
พวกเขาประสบความสำเร็จในการรับมือกับไวรัสมรณะ โดยมีผู้ติดเชื้อเพียง 1,400 คน เสียชีวิต 8 ราย และในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่พบการแพร่ระบาดในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม ใน 2 สัปดาห์หลังสุด กลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อท้องถิ่น 180 คน ปรากฏขึ้น และเจ้าหน้าที่เชื่อว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาดอย่างเงียบๆ ในเมืองที่มีพลเมืองหนาแน่นกว่า 7.5 ล้านคน
ด้วยเหตุนี้ แคร์รี ลัม ในวันจันทร์ (13 ก.ค.) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จึงแถลงมาตรการต่อต้านไวรัสรอบใหม่
นอกเหนือจากห้ามรวมตัวกันในที่สาธารณะเกิน 4 คน ร้านอาหารต่างๆ จะสามารถให้บริการแบบนั่งทานในร้านได้เฉพาะมื้อเช้าและเที่ยง ส่วนมื่อเย็นหรือค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึง 05.00 น. จะให้บริการได้เฉพาะสั่งซื้อกลับบ้าน
ด้านธุรกิจอื่นๆ อีก 12 ประเภท ในนั้นรวมถึงศูนย์ฟิตเนส, ร้านเสริมสวย, ไนต์คลับและคาราโอเกะ จะต้องปิดบริการ
ที่ผ่านมา ชาวฮ่องกงสมัครใจสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่กันอย่างกว้างขวาง แต่ในวันจันทร์ (13 ก.ค.) เจ้าหน้าที่บังคับให้ต้องสวมหน้ากากปกปิดใบหน้ายามอยู่บนระบบขนส่งสาธารณะเป็นครั้งแรก โดยฝ่าฝืนมีโทษปรับ 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 20,000 บาท)
“มันเป็นเวลาที่ต้องเข้มงวด” ลัม บอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมเสริมว่า มาตรการต่างๆ เหล่านี้จะมีการทบทวนในทุกๆ 7 วัน
ถ้อยแถลงนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจครั้งใหม่แก่ฮ่องกง หลังจากเศรษฐกิจของเขตปกครองพิเศษดิ่งสู่ภาวะถดถอยตอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนโรคระบาดจะเริ่มขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว เศรษฐกิจของฮ่อกงกงถูกทุบตีอย่างหนักหน่วง จากสงครามการค้าอันร้อนระอุระหว่างสหรัฐฯกับจีน เช่นเดียวกับการประท้วงอันยืดเยื้อกว่า 7 เดือนของฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย ที่บ่อยครั้งเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง
โซเฟีย ชาน รัฐมนตรีสาธารณสุข ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังหาสมดุลระหว่างการเว้นระยะห่างทางสังคม และการอนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ เปิดบริการต่อไป
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่แถลงว่า ผู้หญิงวัย 95 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งกลายเป็นรายที่ 7 ของเมืองแห่งนี้
ขณะเดียวกัน ตำรวจได้เผยว่า ชายชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งซึ่งมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ได้กระโดดลงจากรถบัสแล้วหลบหนีไป ระหว่างถูกพาตัวไปยังศูนย์กักกันโรค อย่างไรก็ตาม ตำรวจสามารถไล่ตามและควบคุมตัวเขาไว้ได้ในเวลาต่อมา
