เอเอฟพี – คณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ร้องขอศาลสูงเมื่อวันพฤหัสบดี (25) ให้ยกเลิกโครงการโอบามาแคร์ ซึ่งสร้างหลักประกันสุขภาพแก่ชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน
การท้าทายครั้งที่ 3 ต่อกฎหมายฉบับสำคัญนี้ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่ารัฐบัญญัติการบริบาลที่เสียได้ (Affordable Care Act หรือเอซีเอ) เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ มีตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูงที่สุดนับตั้งแต่โรคระบาดคุกคามประเทศนี้
ภายใต้โอบามาแคร์ ชาวอเมริกันหลายล้านคนจะถูกบังคับใช้ต้องซื้อหลักประกันสุขภาพ มิเช่นนั้นก็เผชิญบทลงโทษทางภาษี
แต่ในปี 2017 สภาคองเกรสได้ยกเลิกค่าปรับสำหรับผู้ที่ไม่ได้ซื้อประกัน หรือที่เรียกว่าข้อบังคับรายบุคคล ลบล้างส่วนสำคัญของนโยบายของอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา
กระทรวงยุติธรรมให้เหตุผลว่า “ข้อบังคับรายบุคคลไม่อาจแยกส่วนออกจากส่วนที่เหลือของกฎหมายได้”
เพราะฉะนั้น “ตอนนี้กฎหมายดังกล่าวถึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการการยกเลิกบทลงโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตามโดยสภาคองเกรส” ด้วยเหตุนี้ “เอซีเอทั้งฉบับจึงต้องถูกยกเลิกตามข้อบังคับรายบุคคล”
กระทรวงยุติธรรมอธิบายว่า การคุ้มครองผู้มีโรคอยู่ก่อนแล้วของเอซีเอ ข้อบังคับที่ทำให้บริษัทประกันไม่สามารถปฏิเสธลูกค้าด้วยเหตุผลทางด้านอายุ เพศ หรือสถานะทางสุขภาพ ก็ควรถูกยกเลิกด้วยเช่นกัน
ศาลสูงจะพิจารณาคำร้องนี้ช่วงต้นเดือนตุลาคม แต่สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า มันไม่น่าจะถูกพิจารณาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน
ประธานสภาฝ่ายเดโมแครต แนนซี เพโลซี ประณามความพยายามดังกล่าวของคณะบริหารทรัมป์และเรียกมันว่าเป็น “การกระทำอันโหดร้ายอย่างที่สุด” ในช่วงเวลาการแพร่ระบาด
เธออ้างว่า หากมันถูกยกเลิก ชาวอเมริกัน 130 ล้านคนที่มีโรคอยู่ก่อนแล้วอาจสูญเสียความคุ้มครองของเอซีเอ และพลเมืองมากถึง 23 ล้านคนอาจไม่เหลือหลักประกันสุขภาพใดๆ ติดตัว