เอเจนซีส์ - ปักกิ่งยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1,200 เที่ยว และประกาศปิดโรงเรียนอีกรอบเมื่อวันพุธ (17 มิ.ย.) เพื่อควบคุมการระบาดแบบกลุ่มก้อนจากตลาดค้าส่งอาหารขนาดใหญ่ หลังพบเคสใหม่เพิ่มอีก 31 คน ขณะที่ 6 รัฐในอเมริกาพบผู้ติดเชื้อพุ่งทำสถิติ ในจำนวนนี้รวมถึงโอกลาโฮมาที่ทรัมป์ปักหมุดเตรียมเปิดเวทีหาเสียงช่วงสุดสัปดาห์นี้
ปักกิ่งเรียกร้องให้ประชาชนงดเดินทางออกจากเมืองท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดรอบสองในจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ควบคุมการระบาดได้แล้วเป็นส่วนใหญ่
ประชาชนหลายหมื่นคนที่เชื่อมโยงกับการระบาดแบบกลุ่มก้อนครั้งใหม่ในปักกิ่ง ซึ่งเชื่อว่า เริ่มต้นขึ้นในตลาดค้าส่งอาหารซินฟาตี้นั้น ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว ขณะที่โครงการที่พักอาศัยเกือบ 30 แห่งถูกล็อกดาวน์ และโรงเรียนทั้งหมดได้รับคำสั่งให้ปิดอีกครั้งและกลับไปเปิดคลาสออนไลน์แทน ซึ่งหลังจากพบการระบาดรอบใหม่ ตลาด 11 แห่งถูกสั่งปิดและมีการฆ่าเชื้อตามย่านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในปักกิ่ง
พีเพิลส์ เดลี่ หนังสือพิมพ์ของทางการจีนรายงานว่า เที่ยวบินอย่างน้อย 1,255 เที่ยวบินถูกยกเลิกเมื่อช่วงเช้าวันพุธ หรือเท่ากับเกือบ 70% ของการเดินทางทั้งหมดไปยังและจากสนามบินหลักของปักกิ่ง
การระบาดครั้งนี้กดดันให้เจ้าหน้าที่ในเมืองหลวงของจีนต้องประกาศห้ามประชาชนที่มีความเสี่ยงปานกลางหรือสูงเดินทาง ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางออกนอกเมืองต้องผ่านการตรวจหาเชื้อ ขณะที่หลายมณฑลสั่งกักตัวนักเดินทางจากปักกิ่ง
ซู เหอเจี้ยน โฆษกนครปักกิ่งเตือนเมื่อวันอังคาร (16 มิ.ย.) ว่าสถานการณ์การระบาดในเมืองหลวงรุนแรงมาก ต่อมาในวันพุธ ปักกิ่งรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 31 คน โดย 6 คนเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ และ 3 คนสงสัยว่าติดเชื้อ รวมยอดผู้ติดเชื้อ 6 วันล่าสุด 137 คน
สำหรับทั่วประเทศ พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 2 คน โดย 1 คนอยู่ในมณฑลเหอเป่ย และอีกคนในมณฑลเจ้อเจียง นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 คน
ขณะนี้ ทางการจีนห้ามการเล่นกีฬาที่มีผู้เล่นจำนวนมาก สั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากในพื้นที่อับอากาศที่มีคนแออัด และระงับการเดินทางเป็นหมู่คณะข้ามมณฑล เพื่อควบคุมการระบาด
เจ้าหน้าที่เผยว่า นับจากวันที่ 30 พฤษภาคม มีประชาชนกว่า 200,000 คนเดินทางไปที่ตลาดซินฟาตี้ ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายผักและผลไม้กว่า 70% ในปักกิ่ง โดยพนักงานกว่า 8,000 คนได้รับการตรวจหาเชื้อและกักตัว
ก่อนการระบาดครั้งใหม่ ผู้ติดเชื้อล่าสุดส่วนใหญ่เป็นคนจีนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศขณะที่โควิด-19 กำลังระบาดทั่วโลก และรัฐบาลจีนประกาศชัยชนะเหนือโรคนี้
เมื่อวันจันทร์ (15 มิ.ย.) ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของจีนแถลงว่า ไวรัสที่พบในปักกิ่งล่าสุดเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในยุโรป
ส่วนที่อเมริกา มีรายงานว่า 6 มลรัฐมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อวันอังคาร และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสัปดาห์ที่ 2 ขณะที่มลรัฐส่วนใหญ่เดินหน้ารีสตาร์ทเศรษฐกิจ
แอริโซนา ฟลอริดา โอกลาโฮมา โอเรกอน และเทกซัส พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงสุด หลังจากทำสถิติไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เนวาดารายงานยอดผู้ติดเชื้อในวันอังคารวันเดียวสูงสุดเป็นประวัติการณ์
จำนวนผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งทำสถิติเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่นที่รัฐแอริโซนาที่แผนกผู้ป่วยวิกฤตของโรงพยาบาลส่วนใหญ่เต็มแล้ว
เจ้าหน้าที่ในหลายรัฐระบุว่า สาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยพุ่งขึ้นคือ การอนุญาตให้ธุรกิจเปิดดำเนินการอีกครั้ง และการที่ผู้คนออกไปร่วมฉลองวันรำลึกถึงทหารผ่านศึก นอกจากนั้นหลายรัฐยังเตรียมรับมือแนวโน้มการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจากการที่ประชาชนนับหมื่นชุมนุมประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและการใช้ความรุนแรงของตำรวจตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
จากข้อมูลของรอยเตอร์ สัปดาห์ที่ผ่านมา 17 มลรัฐของอเมริกาพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น ในจำนวนนี้คือโอกลาโฮมาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมจัดการหาเสียงภายในอาคารในวันเสาร์ (20 มิ.ย.) ซึ่งพบเคสใหม่เพิ่มขึ้นถึง 68%
รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาสถานที่ใหม่ซึ่งอาจเป็นพื้นที่แบบเปิดกลางแจ้งสำหรับการหาเสียงในเมืองทัลซา โอกลาโฮมา
ในวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโอกลาโฮมาเรียกร้องผู้ที่ต้องการร่วมฟังการปราศรัยของทรัมป์ ให้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว และตรวจอีกครั้งหลังจากนั้นรวมทั้งกักตัว อีกทั้งขอให้ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปหรือมีความเสี่ยงโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาให้งดออกจากบ้าน
เพนซ์ยังตอบโต้เรื่องที่คนพูดกันเกี่ยวกับการระบาดรอบสอง โดยอ้างว่า สาเหตุที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้นเนื่องจากการขยายมาตรการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ทั้งยังยืนยันว่า อเมริกากำลังจะชนะศัตรูที่มองไม่เห็นนี้
ล่าสุดอเมริกามีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขกว่า 2.1 ล้านคน และกว่า 160,000 คนตามลำดับ
