รอยเตอร์ – วันนี้(8 มิ.ย)เจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนออกมาชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงนั้นส่งผลต่อสถานะการปกครองตนเองหลังจากสิ้นสุดตามข้อตกลงส่งมอบเกาะปี 1997 ที่ให้ฮ่องกงมีการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบและสถานะการปกครองตนเองที่จะสิ้นสุดลงในปี 2047
รอยเตอร์รายงานวันนี้(8 มิ.ย)ว่า ในการออกมาให้ความเห็นที่น้อยครั้งถึงอนาคตเกาะฮ่องกงจากปักกิ่ง ซาง เสียวมิง (Zhang Xiaoming) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีน (Hong Kong and Macau Affairs Office) ออกมาชี้ถึงการที่ชาวฮ่องกงมีความประพฤติเช่นใดในเวลานี้ต่อสถานการณ์ทางการเมืองจะส่งผลต่อสถานะการปกครองหลังจากข้อตกลงให้เสรีภาพแก่ฮ่องกงนั้นสิ้นสุดลงในปี 2047
“ผมได้สังเกตว่ามีคนเป็นจำนวนมากในฮ่องกงเฝ้าดูถึงอนาคตของระบบ 1 ประเทศ 2 ระบบหลังปี 2047 ไปแล้ว” ซางกล่าว
และเสริมว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นที่ฮ่องกงจะแสดงต่อประชาชนของทั้งประเทศที่เป็นตัวแทนโดยสภาประชาชนแห่งชาติจีน(National People's Congress) เพื่อคำประกาศิตใหม่หรือ
ซางกล่าวว่า การมีความผูกพันเพิ่มขึ้นต่อความมั่นคงชาติจะทำให้มีโอกาสมากขึ้นต่อการจัดการระบบหนึ่งประเทศสองระบบ
ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประท้วงฮ่องกงโกรธแค้นต่อในสิ่งที่พวกเขามองว่าปักกิ่งได้กัดกร่อนระบบการปกครองตนเองขั้นสูงของตัวเอง ขณะที่ปักกิ่งมองว่าประชาธิปไตยเป็นเสมือนภัยคุกคามต่ออธิปไตยและความมั่นคงชาติ
ซางอ้างว่ากฎหมายความมั่นคงใหม่นั้นมีเป้าหมายเพื่อจัดการคนกลุ่มน้อยและจะไม่กระทบต่อเสรีภาพของฮ่องกงหรือสถานะศูนย์กลางทางการเงินโลก