xs
xsm
sm
md
lg

In Clip : มิคสัญญีทั่วสหรัฐฯ!! “จอร์จ ฟลอยด์” ต้องไม่ตายฟรี ใกล้โรงแรมเก่าแก่ติดทำเนียบขาวถูกจุดไฟเผา 25 เมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ สั่งเคอร์ฟิว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - ประชาชนอเมริกันไม่พอใจ จอร์จ ฟลอยด์ แอฟริกันอเมริกัน เสียชีวิตระหว่างถูกกดคอโดยตำรวจผิวขาวเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) ที่เมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินเนโซตา เกิดมิคสัญญีทั่วเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ รถถูกเผาในแอลเอ และชิคาโก ปล้นสะดมร้านค้า เดินหน้าปะทะกับตำรวจ ถึงขั้นบุกประชิดทำเนียบขาว ทหารเนชันแนลการ์ด วอชิงตัน ดี.ซี. ถูกส่งรวมจากรัฐมินเนโซตา อีก 10,800 นาย เคอร์ฟิวถูกใช้ 25 เมือง หลังความยุติธรรมให้ จอร์จ ฟลอยด์ ไม่เกิด

NBC News รายงานวันนี้ (31 พ.ค.) การปะทะเกิดขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ประท้วงลามไปทั่วประเทศ จนกลายเป็นมิกสัญญีจากการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ แอฟริกันอเมริกันเสียชีวิตระหว่างถูกกดคอ โดยตำรวจผิวขาวนานกว่า 8 นาที เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) ที่เมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินเนโซตา ล่าสุด มีรายงานซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าโรงแรมเก่าแก่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ถูกจุดไฟเผาในช่วงกลางคืนวันเสาร์ (31) หรือว่าเป็นบริเวณใกล้เคียง แต่ห่างจากทำเนียบขาวไปแค่ 1 ช่วงตึกเท่านั้น อ้างอิงการรายงานจาก CNN

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมืองถึงเวลากลางคืนยังคงเกิดการประท้วงและความวุ่นวาย เป็นต้นว่า เมืองแอลเอ ซึ่งที่แอลเอมีการเกิดปล้นสะดม และไฟเผารถราที่จอด

จอร์จ ฟลอยด์ แอฟริกันอเมริกันเสียชีวิตระหว่างถูกกดคอ โดยตำรวจผิวขาวนานกว่า 8 นาที เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) ที่เมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินเนโซตา

มีการประกาศใช้เคอร์ฟิวไปแล้ว 25 เมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ เนชันแนลการ์ดถูกส่งออกมาในแอลเอ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และรัฐมินเนโซตา

ทั้งนี้พบว่า 25 เมืองใหญ่ใน 16 รัฐที่ถูกสั่งเคอร์ฟิวได้แก่ แอลเอ มินนิอาโปลิส เซนต์พอล ชิคาโก รัฐนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ไมอามี และเดนเวอร์ เป็นต้น

CNN รายงานว่า ที่รัฐมินเนโซตา มีการส่งทหารประจำรัฐออกมา 10,800 นาย และอีก 3,000 นาย ที่แอลเอ และมีรายงานว่า จุดใกล้กับโรงแรม เฮย์ อดัมส์ (Hay Adams hotel) กำลังเกิดไฟไหม้ระหว่างประท้วง และมีการส่งรถดับเพลิงเข้าไปในเวลานี้อยู่ไม่ห่างจากทำเนียบขาวไปแค่ 1 ช่วงตึก มีบางรายงานกล่าวว่า ตัวโรงแรมกำลังเกิดไฟไหม้ แต่มีบางส่วนแย้งว่าเป็นการเกิดไฟไหม้ใกล้กับตัวอาคาร ภาพจากการรายงานของ CNN แสดงให้เห็นถึงลูกเพลิงแดงฉานอยู่ใกล้ตัวโรงแรม

(Lafayette Square) ถูกปิดตายด้วยเครื่องกีดขวาง NBC NEWS รายงานว่า หลังจาก 19.00 น. ฝ่ายผู้ประท้วงเคลื่อนตัวไปยังด้านตรงข้ามกับสวนลาฟาแยตต์ ทำเนียบขาว แถลงว่า ตำรวจใช้สเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตากับผู้ประท้วงแต่ NBC NEWS กล่าวว่า ดูเหมือนจะเป็นกระสุนยางขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจ

และมีรถอย่างน้อย 1 คัน และถังขยะไม่ห่างจากทำเนียบขาวถูกจุดไฟเผา ซึ่งหลังจากเวลา 21.00 น. ผู้บัญชาการทหารเนชันแนลการ์ดวอชิงตัน ดี.ซี. ไรอัน แม็กคาร์ธี (Ryan McCarthy) ได้กระทำตามคำขอของตำรวจสวนสาธารณะสหรัฐฯ (U.S. Park Police) ให้เข้ามาช่วยเหลือควบคุมการประท้วง

สำหรับที่แอลเอซึ่งอยู่อีกฟากฝั่งของสหรัฐฯเป็นอีกจุดที่มีการประท้วงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง หนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สรายงานว่า นายกเทศมนตรีเมืองแอลเอ เอริก การ์เซตตี (Eric Garcetti) ได้ร้องขอให้ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย

แกวิน นิซอม (Gavin Newsom) ส่งทหารเนชันแนลการ์ดประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาช่วยเมืองแอลเอหลังมีการประท้วงใหญ่ ปล้นสะดมร้านค้า ทุบกระจก จุดไฟเผารถและถังขยะกลายเป็นมิคสัญญี

แหล่งข่าวในหน่วยบังคับใช้กฎหมาย กล่าวว่า ทหารเนชันแนลการ์ดจะออกมาบนถนนแอลเอภายในเที่ยงคืนนี้ ซึ่งการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นไม่ถึงชั่วโมงหลังจากการ์เซตตีได้ออกคำสั่งขยายเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งในครั้งแรกสั่งเฉพาะที่ย่านดาวน์ทาวน์แอลเอ แต่ในเวลาต่อมาขยายไปทั่วทั้งเมืองแอลเอ ตั้งแต้เวลา 20.00 น.ของวันเสาร์ (30) ไปถึง 05.30 น.ของวันนี้ (31)

การตัดสินใจเกิดขึ้นหลังสถานการณ์ที่ย่านแขตแฟร์แฟ็กซ์แย่ลง ร้านรวงที่โกรฟ (Grove) และห้างสรรพสินค้าแบรนด์หรู ห้างนอร์ดสตรอม (Nordstrom) ร้านแอปเปิลสโตร์ ถูกเข้าปล้นสะดมจากกลุ่มผู้ประท้วง ป้อมตำรวจเล็กๆ ภายในเขตย่านการค้าถูกจุดไฟเผา

การประท้วงวันเสาร์(30) เกิดขึ้นท่ามกลางสิ่งที่ ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ อดีตผู้นำผิวสีเรียกร้องความเท่าเทียมกันเมื่อยุค 60 ได้เคยกล่าวถึงการประท้วงว่า "การจลาจลคือภาษาที่ไม่ได้ถูกได้ยิน" เซียรา แม็คเคลน (Ciara McClaine) วัย 29 ปีกล่าวในการประท้วงที่เมืองมินนิอาโปลิสวันเสาร์(30)ว่า "ดิฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่พวกเราตกเป็นเป้าโจมตี" และเสริมต่อว่า "ดิฉันรู้สึกกลัวทุกครั้งที่มีสมาชิกครอบครัวชายออกไปจากบ้าน" และเสริมว่า "ดิฉันรู้สึกกลัวเมื่อเห็นตำรวจ ดิฉันรู้สึกตื่นตระหนก ดิฉันแพนิคเพราะตัวเองไม่รู้ว่าจะต้องกลับบ้านไปหาลูกๆหรือไปพบคนที่รัก"

ขณะที่ผู้ประท้วงชายรายหนึ่งได้ประกาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ CNN ว่า "ผมต้องการที่จะสามารถไปที่ถิ่นพวกผิวขาวและรู้สึกปลอดภัย...ผมไม่ต้องการที่จะคิดในทุกย่างก้าว เพราะในสิ้นสุดของวันการเป็นคนผิวดำถือเป็นอาชญากรรม ในสิ้นสุดของวันการเกิดเป็นคนผิวดำถือเป็นความผิด..."













กำลังโหลดความคิดเห็น