รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ มีแผนที่จะลดใช้อุปกรณ์สื่อสารของ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ในการวางเครือข่ายสัญญาณ 5G หลังเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาด สื่อท้องถิ่นรายงานวานนี้ (22 พ.ค.)
หนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟของอังกฤษ รายงานเมื่อค่ำวันศุกร์ (22) ว่า จอห์นสัน ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำแผนเพื่อลดบทบาทของ หัวเว่ย ในโครงสร้างพื้นฐานของอังกฤษให้เหลือ “ศูนย์” ภายในปี 2023
สื่อฉบับนี้ระบุว่า จอห์นสัน พยายามทำให้สหราชอาณาจักรพึ่งพาจีนให้น้อยลง เพื่อเปิดทางเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ รองรับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู)
ทั้งทำเนียบดาวนิงสตรีทและหัวเว่ยยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานชิ้นนี้
ก่อนหน้านั้น หนังสือพิมพ์เดอะไทม์ส ก็รายงานข้อมูลคล้ายๆ กัน ว่า จอห์นสัน สั่งให้พวกข้าราชการอังกฤษไปร่างแผนเพื่อลดการพึ่งพาจีนในด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และสินค้านำเข้าทางยุทธศาสตร์อื่นๆ
สหรัฐฯ ออกมาโจมตีจีนเรื่องมาตรการตอบสนองไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอุบัติขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะที่ปักกิ่งยืนยันว่าไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลใดๆ
“เขา (จอห์นสัน) ยังต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน แต่ข้อตกลงกับหัวเว่ยจะถูกลดทอนลงอย่างมาก เจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้ไปจัดทำแผนเพื่อลดบทบาทของหัวเว่ยโดยเร็วที่สุด” แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับเดลีเทเลกราฟ
หากรายงานนี้เป็นจริงก็จะถือเป็นการพลิกจุดยืนครั้งใหญ่ของรัฐบาลอังกฤษ หลังจากที่เคยยืนยันเมื่อปลายเดือน เม.ย. ว่าพร้อมจะอนุญาตให้หัวเว่ยมีส่วนร่วมพัฒนาระบบ 5G
อังกฤษเคยประกาศไว้เมื่อเดือน ม.ค. ว่า หัวเว่ย จะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพัฒนาเครือข่าย 5G แบบจำกัดไม่เกิน 35% และจะถูกกันออกจากส่วนที่อ่อนไหว เช่น การประมวลผลข้อมูล และถูกห้ามไม่ให้เข้าถึงเครือข่ายที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ หรือสถานที่เปราะบางอย่างเช่นโรงงานนิวเคลียร์และฐานทัพ เป็นต้น
สหรัฐฯ พยายามล็อบบี้ชาติพันธมิตรให้กีดกันหัวเว่ยออกจากโครงการ 5G โดยอ้างว่าอุปกรณ์สื่อสารของหัวเว่ยอาจถูกปักกิ่งใช้เป็นเครื่องมือจารกรรมความลับของตะวันตก