รอยเตอร์ - รัสเซียสั่งตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้โรงพยาบาล 2 แห่ง และคร่าชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ไป 6 ราย ภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ โดยพบว่าเครื่องรุ่นดังกล่าวมีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาด้วย ทว่าเคราะห์ดีที่ยังไม่ถูกนำไปใช้
เหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดย 4 รายเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังนอนรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยหนัก
แหล่งข่าวเผยกับสำนักข่าวทาสส์ว่า สาเหตุมาจากเครื่องช่วยหายใจตัวหนึ่งที่ติดตั้งสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ทำงานหนักจนไฟฟ้าลัดวงจร และก่อให้เกิดประกายไฟขึ้น
เมื่อวันเสาร์ (9) เครื่องช่วยหายใจรุ่นเดียวกันนี้ ก็ทำให้เกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก และทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
Roszdravnadzor ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังด้านสาธารณสุขของรัสเซีย เตรียมเข้าไปตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของเครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ขณะที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จประกาศหยุดใช้เครื่องช่วยหายใจรุ่นที่มีปัญหาชั่วคราว
ด้านบริษัทผู้ผลิตเครื่องช่วยหายใจได้ออกมาวิงวอนสาธารณชนว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปต้นตอของอุบัติเหตุดังกล่าว
สำหรับเครื่องช่วยหายใจ Aventa-M นี้ ได้ถูกส่งออกไปสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. เพื่อใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ปอดอักเสบรุนแรง แม้บริษัทที่ผลิตเครื่องช่วยหายใจรุ่นนี้จะมีชื่ออยู่ในบัญชีคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ก็ตาม
เจเน็ต มอนเทซี โฆษกสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (US Federal Emergency Management Agency - FEMA) ยืนยันว่า อุปกรณ์รุ่นนี้ยังไม่เคยถูกใช้ในโรงพยาบาลสหรัฐฯ และแม้จะถูกส่งไปยังรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื้อโควิด-19 ระบาดรุนแรงที่สุด แต่เนื่องจากกราฟผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มเข้าสู่แนวราบ “จึงทำให้เครื่องช่วยหายใจเหล่านี้ไม่มีความจำเป็น”
ทั้ง 2 รัฐอยู่ระหว่างจัดส่งเครื่องช่วยหายใจคืนให้แก่ FEMA และผลการสอบสวนในรัสเซียจะช่วยให้ทางสำนักงานตัดสินใจได้ว่า ควรจะนำมันออกมาใช้งานหรือไม่ในอนาคต
โรงงาน Ural Instrument Engineering Plant (UPZ) ในเมืองเชลยาบินสก์ ซึ่งอยู่ห่างจากมอสโกไปทางตะวันออกราว 1,500 กิโลเมตร ยืนยันว่า เป็นผู้ผลิตเครื่องช่วยหายใจ Aventa-M และได้จัดส่งอุปกรณ์รุ่นนี้ให้กับโรงพยาบาลเซนต์จอร์จ
รัสเซียมีเครื่องช่วยหายใจในสต็อกอย่างเหลือเฟือ และได้เพิ่มกำลังผลิตในประเทศขึ้นอีกหลังเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนาระบาด
ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรการแพทย์เผยว่า เครื่องช่วยหายใจที่ใช้ตามโรงพยาบาลในเมืองรองๆ ของรัสเซีย มักจะเป็นเครื่องรุ่นเก่า ขณะที่ทาสส์รายงานว่าเครื่องที่ทำให้เกิดไฟไหม้โรงพยาบาลเซนต์จอร์จเป็นเครื่องใหม่ที่เพิ่งจะนำเข้าไปติดตั้งในเดือนนี้
เรดิโอ-อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีส์ คอนเซิร์น (KRET) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน UPZ ยืนยันว่า เครื่องช่วยหายใจทุกตัวผ่านการทดสอบที่จำเป็นอย่างเข้มงวด และถูกใช้ในสถานพยาบาลของรัสเซียมาตั้งแต่ปี 2012 โดยไม่เคยเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ห้ามบริษัทและพลเมืองอเมริกันทำธุรกิจกับ KRET มาตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2014