เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ - ไม่มีใครรู้จำนวนที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในญี่ปุ่น จากคำเตือนหนึ่งในคณะผู้เชี่ยวชาญต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ของรัฐบาลในวันจันทร์ (11 พ.ค.) ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ว่า รัฐบาลจงใจไม่ตรวจเชื้อประชาชน
“แน่นอนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงสูงกว่าที่รายงาน ไม่มีใครรู้ บางทีมันอาจสูงกว่า 10 เท่า, 12 เท่า หรือ 20 เท่า” ชิเงรุ โอมิ หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาล บอกกับคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภา
ญี่ปุ่น ยืนยันพบผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 15,777 คน ในนั้นเสียชีวิต 624 ราย โดยจำนวนดังกล่าวไม่นับรวม ผู้โดยสารจำนวน 712 คนที่ถูกพบติดเชื้อบนเรือไดมอนด์ ปรินเซส ซึ่งจอดเทียบท่าและถูกกักกันโรคนอกชายฝั่งใกล้กรุงโตเกียวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม พวกนักวิจารณ์บอกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้กว่า 10 เท่า พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ชินโซะ อาเบะ ว่า จงใจจำกัดการตรวจเชื้อประชาชน
พวกนักวิจารณ์บอกว่า รัฐบาลกระตือรือร้นที่จะเดินหน้าจัดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ซึ่งโตเกียวเป็นเจ้าภาพ แลกกับการตรวจเชื้อประชาชนอย่างจำกัด แต่ในท้ายที่สุดแล้ว คณะกรรมการโอลิมปิกสากลและญี่ปุ่นก็เห็นพ้องกันในวันที่ 24 มีนาคม เลื่อนการแข่งขันออกไปจนถึงปีหน้า
สมาชิกรัฐสภาจากฝ่ายค้านและพวกผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องซ้ำให้ให้รัฐบาลเพิ่มปริมาณการตรวจเชื้อ
เทตสึโร ฟูกูยามะ เลขาธิการพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย (Constitutional Democratic Party: CDP) บอกกับคณะกรรมาธิการว่าจำนวนประชาชนที่ขอคำปรึกษามีเกินกว่า 1 ล้านคน แต่มีแค่ราวๆ 60,000 คนที่ได้รับการตรวจเชื้อ
ข้อมูลของทีมวิจัย Our World in Data, แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พบว่า ญี่ปุ่นทำการตรวจเชื้อประชาชนเพียง 1.68 คนต่อประชากร 1,000 คน น้อยกว่าเยอรมนี ซึ่งมีการตรวจโรคประชาชน 32.89 คนต่อประชากร 1,000 คน และนิวซีแลนด์ 39.47 คนต่อประชากร 1,000 คน ขณะที่เกาหลีใต้ มีอัตราการตรวจเชื้อ 12.95 คนต่อประชากร 1,000 คน
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุข, แรงงานและสวัสดิการสังคม เพิ่งจะมีการตัดสินใจถอดกฎเกณฑ์หนึ่งออกไปเปิดทางให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจเชื้อมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เคยกำหนดไว้ว่าบุคคลที่จะได้รับการตรวจโควิด-19 จะต้องมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่านั้น 4 วันติดต่อกันเสียก่อน
คาสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีสาธารณสุขอ้างเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) ว่า ข้อกำหนดดังกล่าวเป็น “ความเข้าใจผิด” คำพูดที่โหมกระพือเสียงขุ่นเคืองของประชาชน ในขณะที่พวกนักวิจารณ์ระบุว่าพวกข้าราชการในกระทรวงฯไม่กล้ายืดอกยอมรับความล้มเหลว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาเบะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่หลักร้อยในทุกๆ วัน ทั้งนี้ รัฐบาลจะตัดสินใจในวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.) ว่า จะมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบางส่วนหรือไม่
