xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: โควิด-19 ทำคนจนลง!! “ชาวสวิส” ต่อแถวยาวร่วมกิโลฯเข้าคิวรับอาหารแจกในเจนีวา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - มีชาวเจนีวาไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ที่มีทั้งแรงงานที่มีรายได้น้อย และผู้อพยพเข้ายุโรปผิดกฎหมาย ต่างยืนเข้าแถวต่อคิวเพื่อรับอาหารแจกเช้าวันเสาร์ (9 พ.ค.) คิวต่อมาตั้งแต่ตีห้าเกิดขึ้นในเมืองที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) ว่า เป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่า เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความร่ำรวยที่สุดในโลก แต่สถานการณ์วิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดเป็นสาเหตุที่อาจทำให้หลายคนที่เคยมีเงินต้องจนลง

ในเช้ามืดวันเสาร์ (9) ใกล้กับสนามกีฬาฮอกกีน้ำแข็งของเมือง พบมีชาวสวิสและผู้อพยพเข้าเมืองเริ่มต้นต่อคิวเข้าแถวมาตั้งแต่ 05.00 น. เพื่อรอรับอาหารแจก

เดอะการ์เดียนชี้ว่า มีคนต่อคิวราว 1,500 คน เห็นจะได้

อ้างอิงจากสื่อเดอะโลคอลของสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า แถวยาวไปรวม 1.5 กิโลเมตร และผู้จัดการงานแจกอาหารครั้งนี้คือ องค์กรสมาพันธ์ คาราวาน เดอ โซดาริต (association Caravane de Solidarite)

ทั้งนี้ พบว่า ในถุงอาหารช่วยเหลือขนาดใหญ่จำนวน 1,500 ถุง ซึ่งด้านในประกอบไปด้วย ข้าวสาร เส้นพาสต้า กาแฟสำเร็จรูป ซีเรียลอาหารเช้า และอาหารสำเร็จรูป

และหากว่าอาหารแจกเหล่านี้หมดลงแล้ว แต่ยังคงมีคนเหลือ ทางผู้จัดงานร่วม คือ องค์การแพทย์ไร้พรมแดน ซึ่งผู้อำนวยการ พาทริค วีลันด์ (Patrick Wieland) กล่าวว่า จะทำการแจกคูปองมูลค่า 20 ฟรังก์สวิสแทน

นอกเหนือจากการแจกอาหารแล้ว ทางแพทย์ไร้พรมแดนยังจะตรวจหาเชื้อไวรัสต่อผู้ที่แสดงอาการ และที่สำคัญ สื่อสวิสชี้ว่า ผู้ที่เข้ามารับความช่วยเหลือนี้ไม่จำเป็นว่าต้องแสดงหลักฐานว่ามีความยากจน

เดอะการ์เดียนรายงานว่า อิงกริด เบราลา (Ingrid Berala) มาจากนิคารากัว ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเจนีวา และทำงานพาร์ตไทม์ในเวลานี้ได้อธิบายถึงสาเหตุต้องเข้ามาต่อคิวด้วยว่า “ในทุกสิ้นเดือน กระเป๋าดิฉันว่างเปล่า พวกเราต้องจ่ายบิลต่างๆ ทั้งค่าประกันและทุกสิ่ง” และเสริมต่อว่า “นี่มันยอดเยี่ยมมาก เพราะจะสามารถมีอาหารได้ไปถึงสัปดาห์ เป็นสัปดาห์ที่โล่งอก..แต่ดิฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรสำหรับสัปดาห์ถัดไป”

ขณะที่ เฟอร์นานโด (Fernando) ซึ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายและต้องตกงานจากร้านอาหาร เนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19 แสดงความเห็นว่า “ผมรู้สึกขอบคุณมากต่อการรับความช่วยเหลือนี้ และหากว่าสถานการณ์เปลี่ยนสำหรับตัวผม ผมมีความตั้งใจที่จะทำอย่างเดียวกันต่อสิ่งที่คนเหล่านี้ได้ทำต่อผม”

ด้านชาวฟิลิปปินส์ วัย 64 ปี ซิลเวีย แมงโก (Silvia Mango) ที่รอต่อคิวนาน 3 ชั่วโมง ภายใต้แสงแดดฤดูใบไม้ผลิ กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “ทุกอย่างดูเหมือนยากลำบากมากขึ้นเมื่อวิกฤตเริ่มขึ้น”

อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่า สวิตเซอร์แลนด์มีผู้ติดเชื้อรวมล่าสุดวันอาทิตย์ (10) อยู่ที่ 30,251 คน เสียชีวิต 1,830 คน ซึ่งขณะที่ประเทศกำลังเริ่มยกเลิกมาตรการปิดตายบางส่วน แต่กลับพบว่าการปิดตายที่ยาวนานเกือบ 2 เดือน ทำให้กลุ่มอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายและประชาชนชาวสวิสที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติสวิส พบว่า 8% หรือราว 660,000 คน มีฐานะยากจน จากประชากรทั้งหมดเกือบ 8.6 ล้านคนในปี 2018 อ้างอิงจากองค์กรการกุศล คาริตาส (Caritas)

ด้าน มิเกล มาร์ติเนซ (Miguel Martinez) พนักงานร้านอาหารวัย 27 ปี ซึ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายได้แสดงความคิดเห็นว่า “ไวรัสได้กวาดไปทุกสิ่ง ไม่มีทั้งงานทำ ไม่มีสิ่งใดทั้งนั้น” และเสริมว่า “ร้านอาหารได้รับความช่วยเหลือ แต่ไม่ใช่กับผม ผมไม่มีอะไรจะกิน”

เดอะโลคอลรายงานว่า ผลจากการสำรวจในการแจกอาหารเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าจำนวนราว 550 คน แสดงให้เห็นว่า มีจำนวนมากกว่าครึ่งเป็นกลุ่มคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่เกือบ 1 ใน 3 ของผู้ยืนเข้าแถวเป็นผู้พำนักถาวรในสวิตเซอร์แลนด์ และเกือบ 4% เป็นชาวสวิส

และอีกทั้งพบว่า 3.4% ของผู้ตอบแบบสอบถามติดเชื้อโควิด-19 สูงเป็น 3 เท่าของอัตราทั้งหมดในเมืองเจนีวา ที่มีผลมาจากความยากจนและการอยู่อย่างแออัด














กำลังโหลดความคิดเห็น