รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ในวันพุธ (6 พ.ค.) ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภามากพอสำหรับขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 2 สัปดาห์ เปิดทางให้รัฐบาลควบคุมความเคลื่อนไหวของประชาชนในขณะที่ประเทศแห่งนี้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป
การขยายกรอบเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ (10 พ.ค.) เป็นต้นไป ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วยคะแนน 178 ต่อ 75 ขณะที่อีก 97 คนงดออกเสียง
มาตรการล็อกดาวน์อันเข้มงวดช่วยสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้อย่างเห็นผล ด้วยในวันพุธ (6 พ.ค.) พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเพียง 244 คน ต่ำกว่าระดับสูงสุดเกือบๆ 1,000 คนในช่วงต้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม มันต้องแลกมาด้วยความเสียหายทางเศรษฐกิจและประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก
การโต้เถียงกันอย่างหนักหน่วงเกี่ยวกับแนวทางเตรียมการออกจากมาตรการล็อกดาวน์ ตอกย้ำให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความแตกแยกทางการเมืองในประเทศแห่งนี้ ซึ่งต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปถึง 4 ครั้ง ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่ออีก 2 สัปดาห์ เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
ธุรกิจขนาดเล็ก อย่างเช่น ร้านทำผม เริ่มเปิดให้บริการแล้วในสัปดาห์นี้ ด้วยภายใต้ข้อจำกัดอันเข้มงวด ขณะที่ชาวสเปนซึ่งอยู่ภายใต้คำสั่งหยุดอยู่บ้านมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม เวลานี้ได้รับอนุญาตให้ออกกำลังกายนอกบ้านแล้ว
ความเคลื่อนไหวผ่อนปรนล็อกดาวน์มีขึ้นในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มทุเลาลง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่แกว่งตัวอยู่ระดับ 1,000 ถึง 2,000 เศษๆ มาต่อเนื่องหลายวัน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ราวๆ 100 ถึง 200 คนต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ในวันพุธ (6 พ.ค.) ตัวเลขกลับมาดีดขึ้นอีกครั้ง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,121 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 244 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 253,682 คน สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และเสียชีวิตสะสม 25,857 คน สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และ สหราชอาณาจักร
ในความเคลื่อนไหวค่อยๆ คืนสู่ภาวะปกติ นักเตะของสโมสรบาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด ได้กลับสู่ศูนย์ฝึกซ้อมแล้วในวันพุธ (6 พ.ค.) เพื่อทำการตรวจเชื้อโควิด-19 ในขณะที่ ศึกลาลีกา มีแผนกลับมาลงเล่นกันอีกครั้งในเดือนมิถุนายน