xs
xsm
sm
md
lg

‘จีน’ด่าเช็ด รมว.ต่างประเทศ‘พอมเพโอ’สหรัฐฯ‘วิกลจริต’ ที่ป่าวร้องทฤษฎีแล็บในจีนเป็นต้นตอ‘ไวรัส’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) ไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ขณะแถลงข่าวที่กระทรวงในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 29 เม.ย.
เอเอฟพี/MGRออนไลน์ – สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของรัฐบาลจีน (ซีซีทีวี) เผยแพร่บทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งเมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) มีเนื้อหาโจมตีรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมก์ พอมเพโอ ของสหรัฐฯ ที่กล่าวแสดง “ความคิดเห็นอันวิกลจริตและมุ่งหลบหลีกแก้ตัว” ในเรื่องเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโต้รัฐมนตรีคนสนิทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นี้ ในการเล่นงานกล่าวโทษปักกิ่ง

ทั้งนี้ พอมเพโอ กล่าวทางทีวีอเมริกันเมื่อวันอาทิตย์ (3) ว่า “มีหลักฐานเยอะแยะ” ที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสนี้มีต้นกำหนดมาจากห้องแล็บแห่งหนึ่งในจีน ซึ่งเป็นการตอกย้ำข้อกล่าวหาเดิมๆ ก่อนหน้านี้ที่ได้ถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีกจากองค์การอนามัยโลก และพวกผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์หลายๆ ราย

ทฤษฎีดังกล่าวนี้กำลังถูกผลักดันอย่างแรงจากคณะบริหารทรัมป์ ซึ่งแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จีนหนักขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องการรับมือกับการระบาดคราวนี้เมื่อตอนเริ่มแรกปรากฏขึ้นในเมืองอู่ฮั่นของจีนเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะที่ทรัมป์ถูกมองว่ากำลังพยายามโบ้ยความผิดไปที่คนอื่น เพื่อกลบเกลื่อนความบกพร่องในการรับมือกับโรคติดต่อนี้ของตนเอง จนทำให้สหรัฐฯกลายเป็นชาติที่มีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในโลกและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกไปแล้วในขณะนี้

บทวิจารณ์ที่ใช้ชื่อเรื่องว่า “พอมเพโอผู้ชั่วร้ายกำลังสำรอกยาพิษและแพร่กระจายคำโกหกอย่างขาดความยับยั้ง” (Evil Pompeo is wantonly spewing poison and spreading lies) รวมทั้งเนื้อหาก็ใช้ถ้อยคำหนักๆ แรงๆ ชิ้นนี้ ได้อ้างอิงคำพูดของ ไมก์ ไรอัน กรรมการผู้บริหารของ WHO และ ดับเบิลยู เอียน ลิปคิน นักไวรัสวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งต่างระบุว่าไวรัสนี้มีต้นกำเนิดมาจากธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นไวรัสซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นในห้องแล็บ หรือรั่วไหลออกมาจากห้องแล็บ

“ความคิดเห็นที่ผิดพลาดและไร้เหตุผลเหล่านี้จากพวกนักการเมืองอเมริกัน ทำให้เป็นที่ชัดเจนแก่ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ไม่ได้มี “หลักฐาน” ใดๆ ดำรงอยู่หรอก” บทวิจารณ์นี้กล่าว

“การโฆษณาหลอกลวงในสิ่งที่พูดกันว่า ‘ไวรัสรั่วไหลจากแล็บแห่งหนึ่งในอู่ฮั่น’ นี้ เป็นการโกหกหลอกลวงอย่างสมบูรณ์และสิ้นเชิง พวกนักการเมืองอเมริกันกำลังเร่งรีบหันเหการตำหนิประณาม, หลอกลวงหาคะแนนโหวต, และมุ่งกดข่มกำราบจีน เมื่อความพยายามในการต่อต้านโรคระบาดภายในประเทศของพวกเขาเองกำลังตกอยู่ในความลำบากยุ่งเหยิง”


ไม่เฉพาะซีซีทีวี ยังมีบทวิจารณ์อีก 2 ชิ้นที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (4) โดย เหรินหมินรึเป้า (พีเพิลส์เดลี่) ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งโจมตีเล่นงาน พอมเพโอ และ สตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้านักยุทธศาสตร์ประจำทำเนียบขาวของทรัมป์ ว่าเป็น “คู่ตัวตลกนักโกหกหลอกลวง” รวมทั้งเรียกแบนนอนว่าเป็น “ซากฟอสซิลที่ยังมีชีวิตอยู่จากยุคสงครามเย็น”

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แบนนอนได้พูดในรายการทอล์กโชว์ของพวกขวาจัดในสหรัฐฯว่า จีนได้ก่อความหายนะระดับ “เชอร์โนบิลทางชีววิทยา” เพื่อเล่นงานอเมริกา และป่าวร้องทฤษฎีที่ว่าไวรัสซึ่งระบาดมีต้นตอมาจากสถาบันไวรัสวิทยาในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งก็เป็นการก้องสะท้อนคำพูดจากทำเนียบขาวในช่วงหลังๆ มานี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซีซีทีวีก็ได้ประณามพอมเพโอซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเป็น “ศัตรูร่วมของมนุษยชาติ” และกล่าวหาเขาว่า “กำลังแพร่กระจายไวรัสทางการเมือง” จากการที่เขากล่าวอ้างไม่ได้หยุดหย่อนว่าโรคระบาดครั้งนี้มีต้นตอมาจากห้องแล็บ

ทางฝ่ายจีนก็เคยโจมตีสหรัฐฯว่าเป็นต้นตอที่มาของไวรัสนี้เช่นกัน โดยที่ เจ้า ลี่เจียน โฆษกผู้หนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในสื่อสังคมเมื่อเดือนมีนาคม เสนอทฤษฎีสมคบคิดที่ระบุว่า ทหารสหรัฐฯซึ่งมาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารโลกที่อู่ฮั่นตอนปลายปี 2019 อาจจะเป็นผู้ที่ปล่อยไวรัสนี้ใส่จีน

ตัวประธานาธิบดีทรัมป์เองนั้นได้แสดงความคิดเห็นโจมตีจีนในเรื่องไวรัสตั้งแต่หลายเดือนก่อน แล้วหยุดพูดไปพักหนึ่งภายหลังสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ทว่าได้กลับมากล่าวหาแดนมังกรอีกครั้งในระยะหลังๆ นี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กล่าวอ้างว่าตนมีข้อพิสูจน์ว่าสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นคือต้นตอของไวรัส ซึ่งดูเป็นการสะท้อนการคาดเดาที่พวกคอมเมนเทเตอรทางสถานีวิทยุขวาจัดในสหรัฐฯพากันโหมประโคม อย่างไรก็ดี ทรัมป์ไม่ได้เคยแสดงหลักฐานที่อ้างว่ามีอยู่นี้ให้สาธารณชนรับทราบเลย

รายงานข่าวในสหรัฐฯหลายกระแสยังระบุว่า ทรัมป์ได้มอบหมายให้พวกหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ ใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นในการค้นหาต้นกำเนิดของไวรัสนี้ ขณะที่เขาใช้เรื่องจีนรับมือกับโรคระบาดคราวนี้ มาเป็นเรื่องหลักเรื่องหนึ่งสำหรับการณรงค์หาเสียงเพื่อให้ได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น