เอเอฟพี - ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิล วิจารณ์องค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าส่งเสริมให้เด็กมีรสนิยมรักเพศเดียวกัน และรู้จักปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดที่ผู้นำหัวขวาจัดรายนี้ออกมาเปิดศึกกับหน่วยงานสาธารณสุขยูเอ็น หลังจากที่เคยปฏิเสธมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) เพื่อยับยั้งโควิด-19 มาแล้ว
โบลโซนารู ซึ่งได้ฉายาว่า ‘ทรัมป์แห่งเขตร้อน’ (Tropical Trump) เขียนข้อความดังกล่าวลงเฟซบุ๊กเมื่อค่ำวันพุธ (30 เม.ย.) โดยไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มา และต่อมาก็ลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไป
“นี่คือองค์การอนามัยโลก ซึ่งออกคำแนะนำเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาที่ใครหลายคนอยากให้ผมทำตาม” เขากล่าว
“เราควรทำตามข้อแนะนำเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาของพวกเขาด้วยไหมล่ะ? เด็กที่อายุ 0-4 ขวบ ให้สอนเรื่องความพึงพอใจเวลาสัมผัสร่างกาย สอนการช่วยตัวเอง (masturbation)… เด็กอายุ 4-6 ปี ต้องให้รู้จักอัตลักษณ์ทางเพศเชิงบวก การช่วยตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก การมีความสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน และเด็กอายุ 9-12 ปี ต้องให้มีประสบการณ์เซ็กซ์ครั้งแรก” ข้อความของผู้นำบราซิล ระบุ
ก่อนหน้านั้น อาร์เธอร์ ไวน์เทราบ์ ที่ปรึกษาของโบลโซนารู ก็ทวีตข้อความคล้ายๆ กันว่า “WHO แนะนำให้สอนเรื่องการช่วยตัวเอง การสัมผัสส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อความสนุกและพึงพอใจ และค่านิยมเรื่องเพศแก่เด็กที่อายุ 0-4 ปี จริงหรือไม่?”
แหล่งที่มาของข้อมูลนี้น่าจะมาจากคำแนะนำ ‘Standards for Sexuality Education in Europe’ เมื่อปี 2010 ซึ่งตีพิมพ์โดยศูนย์สุขภาวะศึกษาของเยอรมนี (Federal Centre for Health Education) และสำนักงาน WHO ประจำภูมิภาคยุโรป
เอกสารดังกล่าวอธิบายว่า เด็กเล็กๆ จะเริ่มทำความรู้จักกับร่างกายตนเอง และย้ำเตือนพ่อแม่หรือครูว่าพฤติกรรมการสัมผัสร่างกาย หรืออยากรู้อยากเห็นในเรื่องเพศ “เป็นเรื่องปกติ” สำหรับเด็ก
อย่างไรก็ดี เอกสารดังกล่าวไม่ได้เรียกร้องหรือสนับสนุนพฤติกรรมแบบที่ โบลโซนารู ยกมาอ้าง
โบลโซนารู ซึ่งมีบุคลิกโผงผางคล้ายกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มักจะใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เป็นช่องทางสื่อสารและเรียกคะแนนนิยมจากเหล่าฐานเสียง
เขาแสดงจุดยืนต่อต้านคำแนะนำของ WHO เกี่ยวกับมาตรการควบคุมไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยระบุว่าการเว้นระยะห่างทางสังคมจะ “ทำลายเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น” และยังบอกว่าการติดโควิด-19 ไม่ต่างอะไรกับ “เป็นหวัดนิดหน่อย”
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. โบลโซนารู ถึงขั้นไปร่วมชุมนุมกับม็อบต้านล็อกดาวน์ที่ด้านนอกกองบัญชาการกองทัพในกรุงบราซิเลีย และก่อนหน้านั้น 2 วันก็ได้สั่งปลดรัฐมนตรีสาธารณสุขซึ่งมีความเห็นต่างกับเขาเกี่ยวกับแนวทางจัดการวิกฤตโควิด-19