เอพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกมาประท้วงเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) หลังจากที่จีนประกาศตั้งศูนย์บริหาร (administrative center) ประจำภูมิภาคขึ้นบนเกาะปะการังแห่งหนึ่งในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้
กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ได้แถลงคัดค้าน “การประกาศที่ผิดกฎหมาย” ให้เกาะปะการังเฟียรีครอสส์ (Fiery Cross Reef) เป็นศูนย์บริหารประจำภูมิภาคของจีนในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทที่หลายประเทศอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่
สัปดาห์ที่แล้ว ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์จีนว่า “ฉวยโอกาส” อ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ในขณะที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตโรคระบาดโควิด-19
“ฟิลิปปินส์ขอเรียกร้องให้จีนปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ” กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุ และย้ำเตือนปักกิ่งถึงข้อตกลงเมื่อปี 2002 ที่กำหนดให้รัฐบาลทุกประเทศที่อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ใช้ความอดทนอดกลั้น และหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะบั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาค
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลตากาล็อกก็คัดค้านเรื่องที่จีนประกาศตั้งเมืองซานชา (Sansha) ขึ้นบนเกาะวูดดี้ในปี 2012 และยืนยันว่า “ไม่ให้การรับรองเมืองซานชา หรือหน่วยงานในสังกัดของมัน ตลอดจนการกระทำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่เหล่านี้”
กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ อ้างถึงคำพิพากษาของศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเมื่อปี 2016 ซึ่งปฏิเสธความพยายามของจีนที่จะใช้เหตุผลทางประวัติศาสตร์มาอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ ขณะที่ปักกิ่งซึ่งไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการของศาลปฏิเสธที่จะยอมรับคำตัดสินนี้
สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกมาประท้วงเรื่องที่จีนประกาศตั้ง 2 เขตการปกครองขึ้นมาบริหารหมู่เกาะพิพาท 2 กลุ่มในทะเลจีนใต้ โดยเขตที่ 1 ครอบคลุมหมู่เกาะพาราเซล ส่วนเขตที่ 2 มีอำนาจบริหารเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่ซึ่งจีนได้เปลี่ยนเกาะปะการัง 7 เกาะ (รวมถึงเฟียรีครอสส์) ให้กลายเป็นฐานขีปนาวุธกลางทะเล
ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีบุคลากรและทรัพย์สินอยู่บนเกาะอย่างน้อย 9 เกาะในหมู่เกาะสแปรตลีย์
องค์การศึกษาวิเคราะห์นโยบาย Asia Maritime Transparency Initiative ในสหรัฐฯ ระบุว่า เกาะปะการังเฟียรีครอสส์ได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นฐานที่มั่นทางทะเลที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยมีทั้งฐานยิงขีปนาวุธ, อาคารที่มีหลังคาเปิด-ปิดได้, เรดาร์ และรันเวย์สำหรับให้เครื่องบินขึ้น-ลง