เอเอฟพี - สถิติเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องยาวนานนับศตวรรษของสหรัฐฯ มีอันสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันในไตรมาสแรกของปี 2020 หลังผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หดตัว 4.8% ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากข้อมูลของรัฐบาลที่เผยแพร่ออกมาในวันพุธ (29 เม.ย.)
กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการหดตัวครั้งรุนแรงที่สุดของจีดีพีในรอบ 12 ปี หลังจากโรคระบาดใหญ่บีบให้ภาคธุรกิจต้องปิดทำการ การซื้อ และการลงทุนหยุดชะงัก
แม้การหดตัวของเศรษฐกิจระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมจะเลวร้ายกว่าที่คาดหมายกันไว้แค่เล็กน้อย แต่รายงานเน้นว่ามันยังไม่สะท้อนผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจอเมริกาอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการชัตดาวน์ธุรกิจเกือบทั้งหมดและคำสั่งหยุดอยู่บ้าน เพิ่งมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์ท้ายๆ ของเดือนมีนาคม
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าพลิกผันอย่างรุนแรงจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 โดยระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคมปีก่อน เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัว 2.1% และตอนนั้นพวกนักวิเคราะห์แสดงความกังวลต่อนโยบายการค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มากกว่า ด้วยวิตกว่ามันจะยังเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตของปี 2020
การย่างกรายเข้ามาของโรคระบาดใหญ่ทำให้ความกังวลดังกล่าวกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย ด้วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้คร่าชีวิตผู้คนในสหรัฐฯไปแล้วมากกว่า 50,000 ศพ และทำคนตกงานแล้วราวๆ 26 ล้านคน นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม ในขณะที่เศรษฐกิจถูกทำลายย่อยยับ
ด้วยห้างร้านต่างๆ, สำนักงานและร้านอาหารถูกปิด ตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคลดิ่งลง 7.6% ในไตรมาสแรก จากการเปิดเผยของกระทรวงพาณิชย์ ในขณะที่การใช้จ่ายพังครืนในหลายภาคส่วน ในนั้นรวมถึงภาคประกันสุขภาพและยานยนต์
นอกจากนี้แล้ว ตัวเลขการส่งออกก็ลดลง เนื่องจากคนเดินทางน้อยลง ในขณะที่ยอดนำเข้าก็ลดลงเช่นกัน
พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจีดีพีจะหดตัวสู่เลขสองหนักในไตรมาสสอง เมื่อครั้งที่ข้อมูลจะเผยให้เห็นถึงผลกระทบอย่างครบถ้วนของคำสั่งล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่